Test and review: New Titleist golf ball by www.Spashaft.com      Titleist Velocity golf ball      มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากกับเกมของเราที่จะทำให้เราทำคะแนนได้ดีก็คือลูกกอล์ฟ แต่เท่าที่สังเกตุเราอาจให้ความสำคัญกับลูกกอล์ฟน้อยเกินไป ซึ่งลูกกอล์ฟที่ดีมีคุณสมบัติและสภาพลูกที่พร้อมใช้งานและเหมาะกับเราจะ สร้างความสม่ำเสมอ วิถี ระยะและการควบคุมให้กับเกมของนักกอล์ฟได้     ลูกกอล์ฟรุ่นใหม่จาก Titleist นี้เป็นผลจากการออกแบบที่มีเทคโนโลยีและขบวนการผลิตที่แม่นยำสุดยอดระดับโลก ลูกกอล์ฟ Velocity ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่แกนเป็นแบบ LSX แกนความเร็วสูงนี้จะถูกหุ้มด้วยเปลือกที่เป็น NaZ2 ที่จะส่งผ่านความเร็วให้ลูกพุ่งออกจากหน้าไม้ทุกๆการไดรฟ์ในแต่ละช็อต อีกทั้งให้ความรู้สึกที่ดีในการเล่นลูกสั้นระยะต่ำกว่าร้อยหลาลงมาจนถึงลูก สั้นรอบๆกรีน      Titleist Velocity ที่ออกมาในปี 2012นี้ได้รับการทดสอบมาอย่างโชคโชนหลังจากการเปิดตัวที่งาน 2012 PGA Merchandise Show ที่ Orlando, FL. และเราก็ไม่ผิดหวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราคาที่ไม่สูง ถือว่าเป็นลูกกอล์ฟที่ให้ผลงานดีเยี่ยมแต่ราคาต่ำ แต่ระยะที่ได้นั้นไกลมากถึงแม้ว่าจะรู้สึกแข็งนิดหน่อย จริงๆแล้วเราจะรู้สึกว่า Velocity นั้นแข็งไปหน่อยก็ตอนไดรฟจากแท่นทีออฟ แต่ในเมื่อมันได้ระยะไกลขึ้นอีก 10-12หลา โดยที่สปินไม่มาก จะไปสนใจความแข็งทำไม ส่วนการตีด้วยเหล็กก็ให้ความรู้สึกที่แน่นดี ไม่รู้สึกสั่นหรือแกว่ง การตีด้วยแฟร์เวย์ก็ไม่ทำให้มือสะท้านและสปินต่ำ ช็อตที่เล่นด้วยเวจให้สปินเล็กน้อย ลูกไม่หนักให้ความรู้สึกเบาแต่ก็ไม่กระด้างมากเหมือนลูกแข็งทั่วๆไป อาจจะมีเรื่องที่ต้องระวังในเรื่องการพัตต์ในกรีนที่มีความเร็วที่จะทำให้ ลูกพุ่งออกจากหน้าพัตต์เตอร์เร็ว ลูกรุ่นนี้น่าจะเหมาะกับกรีนในบ้านเราที่ค่อนข้างฝืด      Titleist Velocity ถูกออกแบบมาให้มีสปีดสูง ซึ่งเทคโนยี่ที่ใช้แกนที่เรียกว่า LSX เป็นแกนที่แน่นและเร็วที่สุดในสายงานผลิตในตอนนี้ นั้นหมายความว่าลูกกอล์ฟในรุ่นนี้จะมีความเร็วต้นที่สูงที่สุดหรือลูกจะพุ่ง ออกจากหน้าไม้เร็วมากทำให้ได้ระยะนักกอล์ฟส่วนมากน่าจะชอบบอลไฟลทที่ไม่โด่ง มากและแม่นยำซึ่งเป็นผลจากกการออกแบบโดยรวม ซึ่งรวมถึง Dimple ที่มีผลต่อการเหินของลูกจากการตีในซ็อตต่างๆและสร้างสปินในการตีเหล็กสั้น  ซึ่งเราจะหาได้จากลูกกอล์ฟระดับท็อปที่ใช้ในระดับแข่งขันทั่วๆไป แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้นว่า Tieleist Velocity จะไม่มีคุณสมบัติเท่ากับปลายสุดของลูกกอล์ฟระดับทัวร์ แต่ถ้าเทียบกับราคาลูกกอล์ฟในระดับเดียวกันถือว่า Titleist Velocity ให้ผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก นักกอล์ฟส่วนมากแล้วจะได้ระยะเพิ่มอย่างน่าแปลกใจจาทนทีออฟ เราได้ทดสอบจากการตีในสภาวะที่ลมแรงลูกกอล์ฟทำผลงานได้ดีเนื่องจากคุณลักษณะ ที่ลูกสปีนต่ำและการพุ่งของลูกที่แหวกอากาศด้วยความเร็วต้นสูงจากแท่นทีออฟ ในขณะที่ลูกจะตกไปที่กรีนค่อนข้างแรงซึ่งค่าสปีนเรทไม่มากนักลูกจะค่อนข้าง วิ่งไปข้างหน้าประมาณ 12-18นิ้ว ส่วนโครงสร้างที่ด้านนอกในส่วนของ Dimple เป็นการออกแบบในลักษณะ (Pattern) ที่เป็นเพิ่มระยะและเปลือกเป็นแบบคงทน อันที่จริงVelocityมีCompression เท่ากับ Pro v1แต่ที่รู้สึกแข็งเพราะมีแกนสองชั้น และมีตัวเลขสองหลักสีส้ม (00,11,22,33) และมีลูกศรสำหรับเล็งที่ช่วยในการพัตต์เป็นลูกกอล์ฟที่น่าจะให้ผลงานดีใย สภาพอากาศร้อนและลมแรงซึ่งน่าจะเหมาะกับบ้านเรามาก      Titleist Velocity ถูกสร้างพื้นฐานขึ้นมาจากที่จะช่วยให้นักกอล์ฟที่ต้องการระยะ ความรู้สึกในการตี และไม่เสียความรู้สึกการตีมากนักจากการเล่นลูกสั้น รวมถึงราคาที่เหมาะสมซึ่งผู้ผลิตมีความภูมิกับลูกกอล์ฟรุ่นนี้มาก แต่ลูกที่ตีออกจากรัฟอาจจะควบคุมยากนิดหน่อยด้วยความที่เป็นลูกประเภทตีไกล ที่ค่อนข้างมีเปลือกแข็ง แต่อย่างไรก็ตามนักกอล์ฟสมัครเล่นที่มีแต้มต่อกลางถึงสูงจะได้รับประโยชน์ จากการตีลูกกอล์ฟรุ่นนี้มาก      Titleist NXT Tour ,NXT Tour S “ Pro v 1 Junior”      ถ้าจะจัดอันดับลูกกอล์ฟที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็น Pro v1 ProX ซึ่งถือได้ว่าดีที่สุดในแต่มีเงื่อนไขอยู่อยู่ที่ราคาแพงทำให้เรามีโอกาส เล่นลูกใหม่ได้น้อย ส่วนพวกทัวร์โปรทั้งหลายในPGAทัวร์ได้เล่นฟรีจากการสปอนเซอร์ เพราะฉะนั้น Titleist จึงออกสายการผลิตในรุ่น NXT  Tour, NXT Tour s ,Velocity มาเพื่อชดเชยลูกกอล์ฟ Pro v1  Prov1x ที่เป็นที่นิยมกันในบรรดานักกอล์ฟมือดีและทัวร์โปรที่มีราคาสูง สายการผลิตของ NXT ทางผู้ผลิตจึงพยามรักษาคุณสมบัติและผลงานให้เหมือน Prov1 มากที่สุดและราคาเป็นที่ยอมรับได้ในท้องตลาด โดยผู้ผลิตได้หดแกนในลง 4% และใช้วัสดุแบบใหม่เพื่อทำแกนส่วนถัดไปให้หนาขึ้นและนุ่ม ซึ่งผู้ผลิตบอกว่าจะรักษาสปินเรทได้ดีเท่าเดิม แต่สัดส่วนของการออกแบบแบบนี้ทำให้เพิ่มบอลสปิน ส่วนชั้นนอกสุดไม่ได้เปลี่ยนแปลงเป็นการผสมผสานระหว่าง Surlyn,Ionomer และวัสดุอื่นๆซึ่งรวมกันเรียกว่า “Fusablend” แต่รูปแบบใหม่ของ Dimple เป็นแบบ 302 Dimple ที่ช่วยให้ลูกแครี่ได้ไกลสุดเท่าที่จะตีได้จากการตีไดร์ฟเวอร์ เราอาจจะเรียกลูกกอล์ฟรุ่นนี้ว่า “Pro v1 junior”      ส่วน NXT Tour S เป็นลูกสองชั้น แบบ Lower Compression ที่ให้ความรู้สึกที่นุ่มกว่า มีสีเหลืองและที่มีคำว่า     “ S” หมายความว่านุ่มซึ่งมาจากการทดสอบโดยให้นักกอล์ฟปิดตาทดสอบซึ่ง NXT Tour Sให้ความรู้สึกที่นุ่มกว่า      ถ้าต้องการระยะควรเลือก NXT Tour แต่ถ้าชอบนุ่มเลือก NXT Tour S ถ้าจะจัดระดับชั้นของความใกล้เคียง Pro v1 ทั้งความใกล้เคียงคุณสมบัติและราคา       Pro v1,Pro v1X>>NXT Tour>>NXT Tour S>>Velocity Spashaft By ProworkZ...Pro Moo  083-6023838 More....Test&Review