วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Test and Reviews Titleist 712 Iron AP1,AP2 by WWW.SPASHAFT.COM

Test and Reviews Titleist 712 Iron AP1,AP2 by WWW.SPASHAFT.COM

วันนี้เราได้รับชุดเหล็กที่เรียกได้ว่าฮ็อตมากในขณะนี้มาเพื่อทำการทดสอบ เหล็กจากค่ายนี้จะมีแฟนพันธุ์แท้ติดตามและรอคอยชุดนี้มานานพอสมควรกว่าเหล็ก ชุดนี้มาออกวางจำหน่าย ซึ่งTitleist 712 Iron ที่ออกมาให้เราได้ทดสอบก็ไม่สร้างความผิดหวังทั้งยังรู้สึกประทับใจใน ประสิทธิภาพและรูปทรง

การเปลี่ยนแปลงที่แตกต่าง: Titleist Ap2 เป็นชุดเหล็กที่มีผลงานที่เรียกได้ว่าใช้เทคนิคการผลิตที่พัฒนาก้าวหน้ามาก มีปะสิทธิภาพที่เพิ่มจากเดิม ใช้วัสดุการผลิตที่ผสมผสานกันหลายแบบซึ่งทำให้ง่ายต่อการเล่น ตีได้แน่นและยังให้ความรู้สึกที่ดีในด้านหน้าตาและรูปทรง (Classic Look) เป็นการผสมผสานการออกแบบเหล็กให้ดูไม่หนาเทอะทะทั้งซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบว์ แดงของทีมออกแบบ ส่วนวัสดุที่ใช้ก็เป็นเหล็กForged เหมาะกับนักกอล์ฟที่ต้องการพัฒนาเกมการเล่นและนักกอล์ฟฝีมือดี

Titleist 712 AP2 มีใบเหล็กที่มีเทคโนโลยี่ที่ล้ำหน้ามาก ซึ่งเหล็กจะช่วยเพิ่ม Forgiveness(ลดข้อผิดพลาด) โดยที่ไม่ได้ทำให้การบังคับหรือควบคุมการตีเสียไป นักกอล์ฟยังสามารถตีแบบแต่งซ็อตได้ New Iron 712 AP2 มีการเปลี่ยนแปลงความยาวของใบแตกต่างกันออกไปในแต่ละเหล็ก และมีการผสมผสานวัสดุต่างๆที่มีความหนาแน่นและการจัดวางซึ่ง ทำให้เหล็กมีการกระจายน้ำหนักที่ดี สิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกที่ดีในการตีพร้อมกับเสียงที่ดีในขณะหน้าไม้ปะทะ ลูก ซึ่งถ้านักกอล์ฟที่ต้องการจะพัฒนาฝีมือ 712 AP2 น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะ มันเพิ่มความสามารถในการเล่นของนักกอล์ฟจากวัสดุประกอบกับหลายแบบด้วยวัสดุ ที่เป็น Carbon steel และการผลิตแบบ Forged แต่ที่เป็นจุดเด่นก็คือทังสเตนที่มีความหนาแน่นสูงถูกว่างในตำแหน่งที่เหมาะ สมซึ่งเท่ากับเป็นการกระจาย น้ำหนักของใบเหล็กให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ใบเหล็กสามารถควบคุมระยะได้ตีแม้ตีไม่ถูกกลางหน้าไม้ เนื่องจากใบเหล็กที่ออกแบบมาใหม่นี้มี MOI ที่เพิ่มมากกว่าเดิมถึง7% จึงไม่เสียการสมดุลย์ของการทำงานของใบเหล็ก เวลาที่ตีถูกกลางหน้าไม้จะให้ความรู้สึกที่หนักแน่น ส่วนขนาดของใบเหล็กและขนาดใต้ท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในเหล็กสั้น ส่วนSole(ใต้ท้อง) จะลดขนาดลงเพื่อลดการเสียดทานในขณะตีจากหญ้าหนา ส่วนรูปทรงใบดูกระชับมีขนาดเล็กลงทรงใบด้านปลายใบจะค่อนข้างเหลี่ยมเล็กน้อย ไม่มนโค้งเหมือนรุ่นก่อน รับกับอ็อฟเซ็ทของใบเหล็กแต่ละเบอร์ที่เป็นแบบ Progressive offset ที่สัมพันธ์กับความยาวของใบเหล็กในแต่ละอัน

Titleist 712 AP1 เป็นการพัฒนาเหล็กให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีเทคนิคที่ผสมผสานให้ความหนักแน่นในการตี ซึ่งก็เป็นผลจากการปรับปรุงหน้าตาประการออกแบบให้ดูดี เหมาะกับนักกอล์ฟที่กำลังมีแรงบันดาลใจไปจนนักกอล์ฟที่เอาจริงเอาจัง กุญแจของการปรับปรุงที่เป็นหัวใจที่มีความสำคัญของ AP1 ก็คือการเพิ่ม Forgiveness(ลด ข้อผิดพลาด) มันทำให้นักกอล์ฟสามารถควบคุมไม้ได้ดี ซึ่งในเรื่องของการควบคุมเหล็กหรือประสิทธิภาพของเหล็กที่สามารถแต่งซ็อตได้ ดีนั้นเป็นจุดเด่นเหล็กTitleist ในตระกูล AP และในขณะที่รูปลักษณ์หน้าตาที่เหล็กแต่ละเบอร์จะมีการเปลี่ยนแปลงขนาดใบที่ ละนิด พร้อมกับเพิ่มแรงเฉื่อยทำให้การตีเหล็กแต่ละเบอร์มีความหนักแน่น ทั้งหมดเป็นการผสมผสานกันของเทคโนโลยี่ต่างๆที่ช่วยให้เหล็กทำงานได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพ AP1 มีลำตัวที่เป็น Stainless steel และที่ใต้ท้องมีทังสเตนที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้เหล็กมีความสม่ำเสมอและแม่นยำในการตีเพิ่มบอลสปีดได้ดีและไม่เสียระยะ เมื่อตีไม่เข้ากลางหน้าไม้ ซึ่งในส่วนของเหล็กยาวที่ตีได้ดีทาง Titleist มีการเพิ่ม MOI ถึง4% จึงทำให้ตีได้ตรงขึ้น ส่วนในเหล็กสั้นจากการลดความยาวจึงทำให้การตีเหล็กในเหล็กสั้นได้อย่างหนัก แน่นจากการที่มีการวางตำแหน่งทังสเตนที่มีความหนาแน่นเพื่อช่วยในการกระจาย น้ำหนักและปรับแต่งเหล็กให้มุมมองจากด้านบนไม่ดูหนาและโค้งมนสร้างความ รู้สึกที่ดีในการจรดลูก

Titleist 712 AP1 และ AP2 เป็นวิวัฒนาการมาจากรุ่น 710 มีการเปลี่ยนแปลงเป็นพิเศษโดยเฉพาะการที่เหล็กสามารถชดเชยข้อผิดพลาดมากกว่า เหล็กชุดก่อน สิ่งที่รุ่น 712 เปลี่ยนไปจากรุ่น 710 ที่ชัดเจนคือแผ่นโลหะที่เสีบยอยู่ใต้ท้องที่มีการแยกอิสระจากกันที่ไม่ เหมือนรุ่นก่อนที่เป็นชิ้นเดียวกัน และมีการปรับใต้ท้องให้บางลงและมีการใช้ทังสเตนที่บางแต่มีความหนาแน่นที่ สูงมากกว่าเดิม และจากการที่ทังสเตนถูกแยกออกจากกันจึงทำให้สามารถที่จะวางทังสเตนได้ใน ตำแหน่งที่ต้องการเพื่อให้ใบเหล็กแต่ละใบมีเสถียรภาพมากที่สุดจึงเป็นการ เพิ่ม MOIให้กับเหล็กแต่ละใบ เวลาที่เราพูดถึงการชดเชยข้อผิดพลาด(Forgiveness) มันเป็นได้ในหลายๆเรื่อง เช่น ชดเชยในเรื่องที่ทำให้คุณตีได้ระยะมากขึ้น ตีง่ายขึ้น ตีได้ตรง ขึ้น หรือแม้กระทั่งตีได้ถูกตรงกลางมากขึ้น ซึ่งมาจากการวางน้ำหนักที่ต้องการจึงทำให้ใบ 712 มี MOI ที่มากกว่ารุ่นอื่นที่เคยมีมา เรื่องต่อมาก็คือเรื่องความยาวของใบเหล็กซึ่ง Titleist ได้ข้อมูลมาจากนักกอล์ฟและของทางบริษัทและอีกหลายๆทาง เดิมในรุ่นก่อน 710 ใบเหล็กมีความยาวเท่ากันตั้งแต่เหล็กยาวไปจนถึงเหล็กเจ็ด และใบจะเล็กลงไปจนถึงเวดจ์ ซึ่งเป็นการลดลงแบบขั้นบันได แต่ในรุ่น 712 ใบเหล็กจะค่อยๆลดขนาดลงซึ่งการลดขนาดของใบที่เป็นแบบค่อยๆลดลงจะทำให้การมอง ใบเหล็กในขณะจรดในการตีโดยเฉพาะเหล็กแปดไปจนถึงเวดจ์ที่มีขนาดเล็กลงซึ่งมี ผลต่อการสร้างความมั่นใจให้การตีเหล็กสั้นทำให้เล่นได้ง่ายขึ้น

ทั้งสองรุ่นทั้ง AP1 และ AP2 จะมีความแตกต่างกันบ้างในเรื่องของขนาดใบเหล็ก อ็อฟเซ็ท และวัสดุในส่วนที่เป็นลำตัว แต่ทั้งสองมีความแตกต่างไปจากรุ่น 710 อย่างมาก แต่ที่เห็นได้เด่นชัดคือทั้งสองจะดูรูปทรงกระชับ(Compact) กว่ารุ่นก่อน ซึ่งเราอาจจะเห็นพวกทัวร์โปรใช้เหล็กั้งสองรุ่นผสมกันซึ่งในเหล็กยาวจะลดข้อ ผิดพลาดได้มากกว่า เหล็ก AP2 เป็นเหล็กแบบ Multi material คือการผสมผสานกันของวัสดุและการออกแบบที่เหมาะกับนักกอล์ฟที่มีแต้มต่อไม่ มากนักส่วน AP1 จัดเป็นชุดเหล็กที่เหมาะกับนักกอล์ฟระดับฝีมือปานกลางที่ต้องการเหล็กที่ ช่วยลดข้อผิดพลาดได้ดี

สรุปสิ่งที่AP1และAP2มีการเปลี่ยนแปลงที่พอจะสรุปได้ซึ่งสิ่งที่มีอยู่ใน เหล็กชุดนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เหล็กชุดนี้เต็มไปด้วย ประสิทธิภาพ

-การแยกแผ่นน้ำหนักที่มีความหนาแน่นสูงออกจากกัน พร้อมกับการวางตำแหน่งที่ทำให้เหล็กมี MOI สูงขึ้น ทำให้ใบเหล็กมีขนาดที่บางลงซึ่งเป็นผลจากการที่สามารถเลือกวางน้ำหนักใน ตำแหน่งที่ต้องการ

-ความกว้างของใต้ท้องที่รุ่นก่อนมีขนาดใหญ่ของเหล็กสั้นที่ค่อนข้างกว้าง เกินไปมีปัญหาในการตีเข้าลูก แต่เมื่อมีการสอดแผ่นทังสเตนที่มีความหนาแน่นสูงแต่มีขนาดเล็กลง ทำให้สามารถปรับความกว้างของใบในเหล็กสั้นให้แคบลงได้

- การออกแบบหน้าตาในขณะจรดลูกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่สองสามจุดที่เล็กมากแต่มี อิทธิพลเวลาที่เราจรดลูก เช่นตรงส่วนปลายใบให้มีลักษณะที่โค้งมนน้อยกว่ารุ่นเดิมคือเหลี่ยมมากขึ้น เล็กน้อย อีกส่วนก็คือส่วนที่เป็นสันใบ(Top Line) ให้บางลงไม่หนามากเพื่อความมั่นใจนักกอล์ฟฝีมือดี

- น้ำหนักส่วนใหญ่ตกอยู่บริเวณใต้ท้อง20% ก็ด้วยการวางน้ำหนักด้วยทังสเตนที่มีความหนาแน่นสูงซึ่งมันเป็นการพิสูจน์ใน เรื่องของแรงเฉื่อย MOI ของใบที่เพิ่มขึ้นอีก7% และการเพิ่มตัวเลขทั้งหมดนี้ได้โดยที่ไม่ต้องเพิ่มขนาดของใบให้ใหญ่มากนัก และเมื่อเทียบกับขนาดของเหล็กชุดเดิม 712 AP2 มีขนาดเล็กลง6% จึงทำให้เหล็กชุดใหม่นี้ตีง่ายขึ้น เพิ่มบอลสปีด

และถ้าเปรียบประเภท Cavity ที่มีอยู่ในปัจจุบัน AP2 นี้ได้เปรียบกว่ามากทั้งรูปลักษณ์ที่มีขนาดไม่ใหญ่หนา มีแรงเฉื่อยสูง น้ำหนักรวมอยู่ในส่วนล่างมากกว่ามีประสิทธิภาพในการตีเข้าลูกได้หนักแน่น และชดเชยข้อผิดพลาด ซึ่งจะทำให้นักกอล์ฟนำเหล็กชุดนี้ออกรอบได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับก้าน Dynamic gold รุ่นใหม่ยิ่งทำให้เห็กชุดนี้เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

Spashaft By ProworkZ...Pro Moo 083-6023838

More....Test&Review


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น