วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทนำของ Club Fitting

นักกอล์ฟแต่ละคนล้วนมีสวิงที่เป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง (Unique Swing DNA) แม้กระทั้ง ทัวร์โปรที่เราดูในทีวีหรือในการแข่งขันต่างๆเขาก็จะมีลักษณะการตีที่มีความ เป็นส่วนตัว ในอดีตเรา มีการทำฟิตติ้งที่เป็นด้านเดียว "One size fits all " มันก็ไม่ต่างอะไรกับการซื้อสินค้าปกติ มี FlexR,FlexS เลือกน้ำหนักก้าน เลือกกริพ

แต่ในปัจจุบันมีองค์ประกอบอื่นๆอีกมากที่ช่างสามารถตรวจสอบหาข้อมูลของสวิง และก้านหรืออุปกรณ์ ด้วยเครื่องมือเฉพาะที่ถูกออกแบบและแสดงผลที่แม่นยำ มันสามารถบอกว่าเราสวิงในลักษณะอย่างไร ความเร็วหัวไม้เท่าไร ความเร็วลูกที่พุ่งออกจากหน้าไม้และมุมเป็นอย่างไร พูดง่ายๆการทำClub Fitting ในปัจจุบันเป็นวิทยาศาสตร์เข้าไปทุกขณะ มันลดการคาดเดาออกไปจากระบบ และกำลังเข้ามาแทนที่การทำในแบบเก่า

Club fitting สามารถจัดหรือเลือกอุปกรณ์ทุกอย่างให้เข้ากับวงสวิงที่เป็นส่วนตัวของนัก กอล์ฟแต่ละคน ได้อย่างแม่นยำ ได้ในทุกระดับฝีมือ

นักกอล์ฟจะได้รับประโยชน์จากการทำClub Fitting เขาจะมีไม้ที่เข้ากับวงสวิงซึ่งมีผลอย่างมากสร้างความสม่ำเสมอของการตีและสร้างความมั่นใจ ซึ่งสามารถตัดการตีที่ไม่แน่นอนและขาดประสิทธิภาพออกไปจากเกม



"Club Fitting มีความสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้านักกอล์ฟคนนั้น ต้องการที่จะพัฒนาฝีมือและเกมของเขา"

Hale Irwin






"ฉันจัดการกับไม้ด้วยการทำClub Fitting แล้วเรื่องบางอย่างที่กังวลก็จบ"

Juli Inkster




"คุณ ต้องมองหาไม้ให้เหมาะกับคุณ มันจะช่วยลดความเครียด ความแย่ ความหงุดหงิด ความไม่ได้อย่างใจตั้งแต่เริ่มต้น ถ้าหาไม้ที่เหมาะกับเราได้จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่ต้น ต้องไม่ให้มันยาวเกินไป สั้นเกินไป และหนักเกินไป ไม่เช่นนั้นแล้วคุณมัวแต่ปรับวงสวิงให้เข้ากับ ไม้อันที่คุณใช้ในลักษณะที่ ไม่ถูกต้องตามเบสิก มันง่ายจะตายไปที่จะหาไม้ให้เข้ากับคุณ และมันเป็นเรื่องซีเรียสที่ต้องทำ

Tiger Wood :From golf Digest nov'09 p.28


เราเชื่อที่ Tiger พูดและเห็นด้วยทุกอย่าง แต่ไปไกลกว่านั้นอีกหน่อยคือ เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญกับขนาดกริพ (Grip) และน้ำหนักของมัน ความแข็งของก้าน (Flex) น้ำหนัก (Weight) รวมถึง Loft และ Lie ที่จริงแล้ว Tiger ก็คงคิดอย่างนี้แต่พื้นที่ตอบคำถามในคอลัมม์มีน้อย Tiger เลยพูดรายละเอียดอย่างนี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม Tiger มีความเชื่อมั่นว่าการทำ Fitting ดีแน่นอน แล้วคุณไม่คิดอย่างนั้นบ้างหรือ?

Taylormade R11 The New Iron

Taylormade R11 The New Iron

R11 Iron Review By www.spashaft.com

ก่อนที่จะได้รับ R11 Iron มาทดสอบนั้นได้มีโอกาสทดสอบแล้วจากเหล็กที่นักกอล์ฟนำมาให้ทำฟิตติ้งเพิ่ม เติมในเรื่องของก้านและต้องการ ให้น้ำหนักรวมและความแข็งให้เหมาะกับสวิงของนักกอล์ฟท่านนั้นให้มากที่สุด และจากการได้ทดสอบในสนามซ้อมหลายชั่วโมงและเก็บข้อมูลของเหล็กจากการตีด้วย Launh Monitor และในที่สุดก็พอจะมีความคิดเห็นในใจที่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้ทดสอบเองที่ทาง Taylormade ก็ไม่ได้ถามหรืออยากได้ความคิดเห็นของเราแต่พอจะสรุปความรู้สึกส่วนตัวได้ว่าชอบและรู้สึกประทับใจ ถึงแม้ว่ามันจะเป็น Cast Iron

ถ้าจะพูดถึงTechnical Term ของ R11 ที่จริงแล้วน่าจะมีแรงบันดาลใจมาจาก Taylormade CGB Max ซึ่งเป็นเหล็กที่ใส่เทคโนโลยี่ที่ดีที่สุดทุกอย่างลงไปในใบเหล็กแต่มันก็ดู ใหญ่เทอะทะไปหน่อย แต่มันเป็นเหล็กที่ตีง่ายมาก ซึ่งเราเคยทดสอบไปแล้ว Taylormade เคยทำ Fitting CGB Max แบบเต็มรูปแบบซึ่งลูกค้ากว่า 80% สั่งทำเหล็กชุดดังกล่าวหลังจากที่ได้ทดลองตี แต่เมื่อมีรุ่นใหม่ๆออกมาเหล็กที่ตีง่ายที่สุดก็ค่อยๆถูกลืม ส่วน Driver R11 นี้ก็น่าจะเป็นหนึ่งในแนวคิดที่จะออกแบบเหล็ก R11 เหมือนกัน รวมถึงแรงบันดาลใจ (Inspiration Design) จาก CGB Max ดังนั้น Taylormade จึงสร้างชุดเหล็กที่ตีได้ดีกว่าและถูกกว่า ดังนั้นรูปทรงที่ออกมาจึงมีบางส่วนของเหล็กเหมือนกับเหล็กหลายๆรุ่น R11 จึงมีรูปลักษณ์แบบ Burner ผสมกับ MC ผสมกับ Tour Preferred Line จึงทำให้ใบดูไม่ค่อยใหญ่มากนัก

เหล็กที่ใช้ทดสอบมากับก้าน NS Pro 950 และ Graphite shaft จาก Fujikura 65i ทุกอย่างเป็นมาตราฐานทั้งความยาว Loft และ Lie ปกติผู้ทดสอบชอบ TP Series แต่เมื่อทดลองตีเหล็กให้ความรู้สึกดีตอนจรดลูกและตีได้แน่น ตอนหน้าไม้ปะทะลูก เราเคย Test&Reviews Taylormade MC และชุดเหล็ก Burner 2.0 มาแล้วซึ่งในตอนนั้นความรู้สึกสีสันและขนาดของหัวเหล็กของ Burner ไม่ค่อยถูกใจมากเท่าไรนัก แต่ชุดเหล็ก R11 จะอยู่ตรงกลางระหว่างสองรุ่นนี้ คุณอาจชอบแนวคิดการออกแบบของ Burner 2.0 แต่ไม่ชอบความรู้สึกในขณะตี แต่ชุดเหล็ก R11 ทำให้เราประหลาดใจจากการตี ขณะที่ R11 เป็นเพียงแค่เหล็กประเภท Cast Club เท่านั้น แต่ที่ทำให้ประหลาดใจมากที่สุดคือเหล็กสั้น R11 ตีได้เข้าเป้าแม่นยำและให้ความรู้สึกแน่นไม่รู้สึกว่าเป็นเหล็กประเภท Cast Iron พูดโดยรวมดีที่เดียวสำหรับการตีซ็อตต่างๆถึงแม้ว่าบางทีตีแบบกระชากหรือเร่ง ตีเกินไปแบบทุบลูกมันก็ให้ผลดีเกินคาดทั้งๆที่เรารู้สึกว่าตีไม่ดีเลยระยะ อาจเสียไปบางแต่ก็ยังตีเข้าเป้าหมายตลอด แสดงให้เห็นถึงความสมดุลย์ของใบเหล็กในตอนอิมแพคลูก

ส่วนร่อง Groove taylormade ไม่ได้บอกว่าเป็นแบบไหน อยู่ในกฎหรือไม่ แต่มันไม่ใช่แบบ milling แน่นอนเพราะ R11 เป็นแบบ Cast แต่ก็ยังคงทำสปินได้ดีมากโดยเฉพาะในเหล็กสั้น มีรายงานว่า R11 โดยเฉพาะเหล็กสั้นที่ตีออกจากรัฟสามารถทำสปินได้กว่า 1600 rpm(Round per minute) มันสามารถลดอาการลูก Flyer ได้ดี ซึ่งค่าสปินในขณะตีผ่านรัฟนี้มากกว่า Burner 2.0 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีมากในการตีลูกขณะที่มีหญ้าขวางอยู่ตรงกลางระหว่างใบ เหล็กกับลูก และตอนที่เราทดสอบตีเหล็กสั้นกับ Launch Monitor ลูกที่ตกกับระยะลูกที่กลิ้งไปข้างหน้าไม่เกิน 2-3 ฟุต แต่ส่วนมากกลิ้งไปแค่ 1 ฟุตเท่านั้น ดังนั้นยิ่งนักกอล์ฟที่มีทักษะสูงจะสามารถให้เหล็กทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ส่วนเหล็กกลางมีอาการสปินปานกลางวิถีลูกโด่งไม่มากนักลูกลอยในอาการค่อนข้าง นานสำหรับเหล็ก 5 ทำระยะได้ดีมาก ถ้ามือทั่วไปเริ่มตั้งแต่เหล็ก 5 ก็น่าจะพอที่จะทำให้คุณตีขึ้นกรีนได้อย่างแม่นยำ

ผู้ที่สวิงสปีดปานกลางสามารถทำระยะจากการตีน่าจะได้ไกลกว่าเหล็กปกติในเบอร์เดียวกัน ประมาณ 1 เบอร์ในเหล็กสั้น ส่วนในเหล็กยาวอาจจะตีได้ไกลกว่า 1 1/2 เบอร์ที่จะได้ระะเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15 หลา อาการลูกปลิวและไม่สามารถควบคุมได้จากการตีเหล็กยาว (Flyer Short) กลับพบน้อยมากเมื่อเทียบกับ Burner 2.0

ขนาดของใบอาจจะดูใหญ่กว่าใบทั่วไป เพราะทาง Taylormade เขาตั้งใจให้นักกอล์ฟที่มีแฮนดีแคป 20 ก็ยังคงสามารถเล่นเหล็กชุดนี้ได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีใบที่มีขนาดเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่จริงๆแล้วมันจะค่อยๆใหญ่ขึ้นแต่คุณอาจสังเกตุไม่ค่อยเห็น เส้นขอบต่างๆมองดูกลมกลืนขอบใบเป็นแบบ Less Camber ทำให้วางไม้จรดลูกได้มั่นใจขึ้นการออกแบบด้านหลังยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ เหล็กจาก Taylormade มีหมุดถ่วงน้ำหนักสีแดงโครงสร้างแบบ Pocket Cavity Low CG บางคนอาจไม่ชอบหมุดสีแดงแต่เวลาจรดลูกมองไม่เห็นซึ่งไม่น่าเป็นปัญหารบกวนการตี

มีอยู่คำเดียวที่จะบอกคือ "หยิบออกไปตีเลย" R11 ชุดนี้เป็นเหล็กที่ตีสนุก มันขึ้นอยู่ที่คุณตีแบบไหนถ้าสวิงของคุณสมบรูณ์แบบมันจะทำให้ได้เบอร์ดี้ หรือทำพาร์ได้ไม่ยาก แน่นอนเหล็กชุดนี้เป็นเหล็กที่ดีที่สุดชุดหนึ่งที่ Taylormade ทำออกจำหน่าย แต่มันก็ไม่หมายความว่าจะเหมาะกับนักกอล์ฟทุกคน แต่ถึงอย่างไรคิดว่าคุณต้องชอบเมื่อคุณตีมัน และถ้ามีการทำ Fitting เหล็กชุดนี้ให้เหมาะกับคุณรับรองว่าคุณจะได้ชุดเหล็กคู่ใจและถูกใจคุณแน่นอน

TECHNOLOGY OVERVIEW

R11 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากไดรฟเวอร์ R11 ชุดเหล็ก R11 ใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงเพื่อความสมบูรณ์แบบ การวางจุด CG อย่างแม่นยำ หน้าใบเหล็กบางเฉียบใต้ใบเหล็กออกแบบเหมือนของโปรทัวร์ และด้วยเทคโนโลยีของ Inverted Cone ทำให้ R11 นี้มีพลังสูงสุด เล่นได้จริงและเป็นชุดเหล๊กที่มีการปรับเปลี่ยนมาดีที่สุดเท่าที่เคยทำมา

INVERTED CONE TECHNOLOGY

เทคโนโลยีของ Inverted Coneที่อยู่ภายในใบเหล็ก R11 นี้จะช่วยเร่งความเร็วของลูกกอล์ฟและให้ระยะถึงแม้จะกระทบลูกไม่ถูกกลาง หน้าไม้

PRECISION WEIGHTING PORT

ตำแหน่งจุดถ่วงน้ำหนักที่แน่นอน

การทำจุดถ่วงน้ำหนักถาวรในตำแหน่งกึ่งกลางหลังใบเหล็ก และอยู่ตำแหน่งที่แน่นอนนี้ทำให้เรามั่นใจว่าเหล็กแต่ละอันในเซ็ท R11 จะถูกจัด swingweight ได้โดยที่ตำแหน่งของ CG ยังอยู่ในที่ที่ดีที่สุดไม่ถูกเลื่อนไปจากจุดกึ่งกลางของหัวกับท้ายของใบ ในอดีต ช่างทำไม้กอล์ฟมักใส่ตัวถ่วงน้ำหนักข้างในคอไม้เพื่อปรับ swingweight ซี่งผลของการทำน้ำหนักในตำแหน่งนี้จะดึง CG มาใกล้ท้ายของใบหลายองศา จึงทำให้เหล็กชุดนั้นๆมี Swingweight ที่สม่ำเสมอกันแต่ตำแหน่งของ CG กลับไม่แน่นอน

ULTRA-THIN FACE

หน้าใบที่บางเฉียบ

หน้าใบเหล็กที่บางจะช่วยเร่งความเร็วของลูกกอล์ฟและเพิ่มระยะให้กับเหล็กยาวและเหล็กกลางของชุด R11 นี้

TOUR INSPIRED SOLE DESIGN

ใต้ใบแบบทัวร์

ใบเหล็ก R11 มีใต้ใบเหล็กแบบโค้งลาดเอียงไปด้านหลังเพื่อทำหน้าที่หลายอย่างและทำงานได้ เหมือนแบบใบบางของทัวร์ซึ่งเพิ่มความสามารถในการเล่นจากไลน์ลักษณะต่างๆ อีกทั้งทำให้ CG ต่ำและลึก ช่วยให้ลูกลอยขึ้นจากพื้นง่าย พุ่งออกไปอย่างมีพลัง

SPECIFICATIONS

CLUB LOFT LIE OFFSET FLEX LENGTH
SWING WEIGHT
3 19° 60.5° 5.8mm S,R 38.75" 39.0"
D2
4
21° 61.0° 5.4mm S,R,M 38.25" 38.5" D2
5
24° 61.5° 5.0mm
S,R,M
37.75" 38.0" D2
6 28° 62.0° 4.6mm S,R,M 37.25" 37.5" D2
7 32° 62.5° 4.0mm S,R,M 36.75" 37.0" D2
8 36° 63.0° 3.4mm S,R,M 36.25" 36.5" D2
9
40° 63.5° 2.8mm S,R,M 35.75" 36.0" D2
PW 45° 64.0° 2.2mm
S,R,M 35.5" 35.75" D2.5
AW 50° 64.5° 1.6mm
S,R,M 35.5" 35.75" D2.5
SW 55° 64.5° 1.0mm
S,R,M 35.25" 35.5" D4.5

TIPS **Shaft weight คุณอาจไม่รู้ว่ามันอาจทำร้ายเกมของคุณได้**

คุณรู้ไหมน้ำหนักของก้านนั้นมีอิทธิพลมากที่สุดในการกำหนดน้ำหนักรวมของไม้ กอล์ฟของคุณ น้ำหนักรวมของไม้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักของก้านเป็นหลัก ถึงแม้ว่าเรายังมีน้ำหนักของหัวไม้และน้ำหนักของกริพซึ่งค่าเฉลี่ยของ น้ำหนักของทั้งสองอย่างนี้มีช่วงของน้ำหนักเฉลี่ยที่ไม่ต่างกันมากนักซึ่ง เป็นมาตราฐาน ก้านไม้กอล์ฟมีหน่วยวัดน้ำหนักเป็นกรัมและมีน้ำหนักหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับลักษณะการออกแบบหรือแนวคิดและวัสดุที่ใช้ผลิตที่เป็นทั้ง Cabon Fiber หรือ Graphite

น้ำหนักก้านในปัจจุบันจะมีน้ำหนักอยู่ในช่วง 40-135 กรัม ยกตัวอย่างหัวไม้ในปัจจุบันจะหนักประมาณ 310-320 กรัม หรืออาจมีน้ำหนักต่ำกว่านี้จะเป็นหัวไม้ประเภทแจแปนสเปคที่เบากว่านี้หน่อย

ยกตัวอย่างในการซื้อหัวไม้ประเภท Production Line ที่มีขายอยู่หลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่คนขายจะให้ความสำคัญเรื่องความเร็วหัวไม้ (Head Speed) เพื่อที่จะเลือก Flex และตามด้วยน้ำหนักที่มีให้เลือกอย่างมากไม่เกินสองแบบ ซึ่งถือว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะเลือกเพียงแค่สองตัวเลือกแล้วหัวไม้อันนั้นจะ เข้ากับวงสวิงของคุณมากที่สุด การทำ Fitting กับ Club Fitter ที่มีความชำนาญสามารถทำให้คุณได้หัวไม้ที่นอกจากจะมีน้ำหนักที่เหมาะกับคุณ ที่สุดแล้วยังรวมถึงองค์ประกอบอื่นๆที่เข้ากับเกมของคุณมากที่สุดด้วย

Swing profile Matching with shaft profile

Strength&Tempo Shaft Weight
Head Speed Shaft Flex
Swing Talent Shaft Specification

น้ำหนักก้านควรจับคู่กับพลังของการสวิงและจังหวะ ความสัมพันธ์กันนี้ส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงของรอยต่อในมุมต่างๆของวงสวิงทำ ให้เกิดความราบเรียบและเต็มไปด้วยพลัง วงสวิงที่ดีเป็นเรื่องของการสร้างแรงเหวี่ยงนี้ศูนย์กลาง (Centrifugal Force) แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางของนักกอล์ฟแต่ละคนต้องการน้ำหนักของก้านที่เข้ากับ พลังในการเร่งความเร็วและจังหวะการตีที่เป็นแบบเฉพาะตัว ดังนั้นในขณะดาวน์สวิงมันจะทำให้เกิดพลังและความสม่ำเสมอหรือถ้าจะพูดโดยรวม มันทำให้สิ่งที่เราเรียกว่า Overall swing Timing (Tempo&Rhythm) สมบรูณ์แบบ

ถ้าน้ำหนักรวมเบาเกินไป : แน่นอนที่นักกอล์ฟจะมีแนวโน้มที่จะสวิงเร็วเกินไป ทำให้ขาดการควบคุมและยังมีแนวโน้มที่จะขาดการควบคุมหน้าไม้ให้ตีเข้ากลาง หน้าไม้

ถ้าน้ำหนักรวมมากเกินไป : นักกอล์ฟจะมีแนวโน้มที่จะเสียการควบคุม (Stability) หรือเสียสมดุล (Balance) ในการตีโดยนักกอล์ฟอาจมีการเคลื่อนไหวของลำตัวเกินความจำเป็นในขณะอิมแพค

อาการของน้ำหนักรวมที่เบา(Symptoms of the total weight being too light)

- ต้องต่อสู้กับจังหวะที่ไม่ใช่เป็นจังหวะของตัวเอง

- ต้องพยายามตีให้ช้าลง เพื่อใหีตีลูกได้กลางหน้าไม้

- มีแนวโน้มที่แนวไม้หลุดนอกแนวสวิง (Swing Path) ทำให้ขาดความแน่นอนและแนวสวิงเปลี่ยนไป

- ให้ความรู้สึกสบายเหมาะกับนักกอล์ฟที่มีพลังน้อย

อาการของน้ำหนักรวมที่หนัก (Symptoms of the total weight being too heavy)

- รู้สึกหนักและต้องใช้ความพยายามในการสวิง

- มีแนวโน้มที่ตีแบบดัน (Push) เพราะต้องใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายมาก ตัวอาจอยู่หน้าลูกก่อนที่หน้าไม้จะเข้าถึงลูก

- เสียระยะไม่สามารการควบคุมการทำงานของไม้ได้

- เหมาะกับนักกอล์ฟที่แข็งแรง หรือนักกอล์ฟที่ตีแบบดุดัน (Hitter)

Tsuruya Axel GX

Hot golf : Club test by Spashaft

ประเภทหัวไม้ : max Game-improvement Drivers

ทดสอบ : Tsuruya Axel GX Series HM Flex R, S

Key & Technology : ไดร์ฟเวอร์ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี่ : 460cc , S.D.C.Theory, D.I. Theory, New L&E Concept, 70t High Elasticity Shaft ทั้งหมดนี้ถึงรวมอยู่ในโครงสร้างแบบ 4 ชิ้น และก้านที่มีความเสถียรในทุกจังหวะสวิง

ความเห็นของผู้ทดสอบ : จัดเป็นไดร์ฟเวอร์ที่มีนำ้หนักเบา Light weight ทีตอนนี้กำลังเป็นTrend ของหัวไม้ที่เน้นเรื่องน้ำหนักรวมที่เบาและก้านยาวแต่ง่ายต่อการควบคุมและ สามารถเร่งความเร็วในขณะอิมแพคได้ดีกว่าหัวไม้ที่มีน้ำหนักมาก ไดร์ฟเวอร์ประเภทนี้จึงเหมาะกับนักกอล์ฟที่ความเร็วหัวไม้ที่ไม่สูงมากมันจะ ช่วยให้เขาสามารถเพิ่มระยะและการควบคุมที่ดีกว่าได้

Distance : ระยะที่ทำได้จากการตีค่อนข้างดีลูกเมื่อตกมีอาการกลิ้งไปข้างหน้า ค่า Spin rate ไม่สูงมากนัก เฉลี่ยประมาณ 3065-2578 rpm ค่า Side spin ค่อนข้างน้อย นี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ไดร์ฟเวอร์อันนี้ถึงแม้ว่าความเร็วหัวไม้ไม่เร็วมาก นักแต่ถ้าคุณตีเข้าพื้นที่อิมแพคและมีมุมตอนปะทะบอลที่เหมาะสม Tsuruya Axel ทำระยะได้ดีพอควรระยะที่ทำได้เฉลี่ยไกลสุดรวมลูกวิ่งได้ 271 หลาสำหรับ flex R

Accuracy/ Forgiveness : Axel GX ให้ความแม่นยำและสามารถควบวิถีลูกให้อยู่ในแฟร์เวยได้ค่อนข้างดี มันช่วยให้นักกอล์ฟที่ฝีมือปานกลางสามารถตีได้ทั้งระยะและทิศทาง และสามรถตีดุดันได้บ้างก้านและหัวไม้ก็ยังทำงานไ้ดี

Feel : ความรู้สึกในขณะตีและหน้าไม้ปะทะลูกดีกว่ารู้ก่อน ถือว่าเป็นหัวไม้ที่เวลาตีแล้วค่อนข้างมั่นใจ

Sound : ไดร์ฟเวอร์ในระยะหลังจะเป็นหัวไม้ที่มีส่วนประกอบจากวัสดุหลายชนิดมารวมกัน ดังนั้นเสียงจึงสู้หัวไม้รุ่นเก่าที่มีโครงสร้างแบบน้อยชิ้นไม่ได้ ถึงแม้เสียงจะมีส่วนหนึ่งในการสร้างความรู้สึกที่ดีในการตี แต่ถ้าส่วนประกอบของหัวไม้ที่มีส่วนให้หัวไม้ทำงานดีที่สุดน่าจะเป็น ประโยชน์มากกว่า

ドライバー Driver

ヘッド素材(BODY) Head material (BODY)

Ti-811 TITAN + CFRP Ti-811 TITAN + CFRP

ヘッド素材(FACE) Head material (FACE)

6AL-4V TITAN 6AL-4V TITAN

シャフト Shaft

AXEL GX HM CARBON AXEL GX HM CARBON

グリップ Grip

AXEL RD BLUE RUBBER (M60/37g) AXEL RD BLUE RUBBER (M60/37g)

番手 Count

#1 # 1

フレックス Flex

FLEX-R / FLEX-S FLEX-R / FLEX-S

付属品 Accessories

専用ヘッドカバー Private head

原産国 Country of origin

MADE IN JAPAN MADE IN JAPAN

#1 # 1

ロフト角(°) Loft (°)

10 Ten

ライ角(°) Lie angle (°)

61 61

フェース角(°) Face Angle (°)

+1 +1

クラブ長(inch) Club length (inch)

46.25 46.25

ヘッド体積(cm3) Head volume (cm3)

460 460

トルク(°) Torque (°)

4.3 4.3

バランス Balance

D2(R) / D2.5(S) D2 (R) / D2.5 (S)

キックポイント Kick

先中調子 Tone in the earlier

総質量(g) Total mass (g)

281(R) / 283(S) 281 (R) / 283 (S)

推奨ヘッドスピード Recommended head speed

38m/s - 45m/s 38m / s - 45m / s

#1(10度) # 1 (10 degrees)

重心アングル(°) Centroid angle (°)

24.2 24.2

重心深度(mm) Centroid depth (mm)

33.0 33.0

重心深度(mm)★ Centroid depth (mm) ★

38.3 38.3

重心高さ(mm) The center of gravity (mm)

26.2 26.2

重心高さ(mm)★ The center of gravity (mm) ★

29.0 29.0

スポット高さ(mm) Spot Height (mm)

32.6 32.6

重心距離(mm) Centroid distance (mm)

38.5 38.5

重心距離(mm)★ Centroid distance (mm) ★

37.5 37.5

有効打点距離(mm)★ Valid RBI distance (mm) ★

23.0 23.0

  • 各項目の数値は、量産時に公差が発生しますので、予めご了承ください。 Numbers of each item, so when the mass tolerance occurs, please note.
  • ★ 印は、ゴルフ雑誌などでよく採用されている「竹林隆光氏式」による測定数値です。 ★ mark has been used frequently in golf magazines, "said Takamitsu Takebayashi expression" is measured by numbers.

เราจะเลือกไดร์ฟเวอร์อย่างไรดี? (ให้เหมาะกับเรา)

Clubhead Design: Size & Weighting / การออกแบบหัวไม้ ขนาด และน้ำหนัก

สิ่งแรกที่เราควรพิจารณาคือขนาดของหัวไม้ที่มีให้เราเลือกหลายขนาดซึ่งตามกฎ ของ USGA เขากำหนดให้หัวไม้มีขนาดใหญ่ไม่เกิน 460 cc. การที่เราเลือกขนาดของหัวไม้ที่ใหญ่ก็หมายถึงหน้าไม้ที่มีพื้นที่อิมแพค ที่กว้าง "Sweet Spot" มันมีประโยชน์มากเมื่อคุณตีไม่เข้ากลางหน้าไม้ หัวไม้ที่มีพื้นที่ปะทะลูกที่กว้าง (Impact Area) จะยังคงรักษาประสิทธิภาพของการทำงานของหัวไม้นั้นได้ดีกว่าหัวไม้ที่มีขนาด เล็ก และยังคงรักษาทิศทางตามที่เราต้องการซึ่งเหมาะกับนักกอล์ฟฝีมือปานกลางหรือ นักกอล์ฟมือใหม่ ส่วนนักกอล์ฟที่มีวงสวิงที่สมำ่เสมอจนถึงโปรอาจเลือกหัวไม้ที่มีขนาดที่เล็ก กว่าได้ ซึ่งมีขนาดประมาณ 380-410cc ส่วนใหญ่หัวไม้ที่มีขนาดเล็กกว่าจะมีคุณสมบัติในการควบคุมและลูกจะพุ่งออก จากหน้าไม้ในมุมที่ตำ่กว่า ดังนั้นการเลือกขนาดและการออกแบบควรพิจารณาควบคู่ไปกับลักษณะวงสวิงของเรา เป็นหลัก

การออกแบบในช่วงหลังๆมานี้จะมีเรื่องของการใช้หมุดนำ้หนักที่ีปรับได้ ซึ่งนักกอล์ฟสามารถปรับเลื่อนหรือเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อให้เข้ากับมุมของ หน้าไม้ในช่วงอิแพคของนักกอล์ฟแต่ละคนที่มีมุมอิมแพคและหน้าไม้ที่มีองศา เปิดหรือปิดที่ต่างกัน ช่วยลดอาการลูกเฟดหรือดรอว์ ปรับวิถีลูกให้สูงหรือต่ำ อีกทั้งยังมีการออกแบบที่ให้มีหมุดน้ำหนักอยู่ภายในหัวไม้ ไม่ว่าคุณจะชอบแบบขันน็อตหมุด กระดองคาร์บอนที่น้ำหนักเบาหรือรูปทรงที่ไม่เหมือนใคร หัวไม้ที่มีสมรรถนะสูง high-performance มีให้คุณเลือกมากมายเพื่อให้เหมาะกับเกมกอล์ฟของคุณ

Loft : องศาหน้าไม้ ถ้าองศาหน้าไม้มีองศาสูงจะทำให้ลูกพุ่งออกจากหน้าไม้ในมุมที่สูงกว่าซึ่งจะ ทำให้เราได้ระยะเพิ่ม ลูกกอล์ฟและขนาดหัวไม้ที่ใหญ่ขึ้นในปัจจุบันนั้นต้องการการพุ่งของลูกในมุม สูง ถ้าคุณยังทีออฟด้วยหัวไม้ 3 อยู่ ถึงเวลาที่ต้องหาไดรฟ์เวอร์ใหม่ได้แล้ว และถ้าคุณยังไม่แน่ใจ ให้เลือกองศาที่สูงไว้เพื่อให้ได้ระยะเพิ่ม ตัวอย่างเช่นถ้าคุณยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือก 9 องศาหรือ 10 องศาดี ให้เลือก 10 องศาไว้ก่อน

Shaft Flex : การเลือกความยืดหยุ่นของก้านนั้นมีผลต่อระยะและความแม่นยำ โดยทั่วไปแล้ว นักกอล์ฟที่มีความเร็ววงสวิงต่ำควรใช้ก้านที่มีความยืดหยุ่นมากหน่อย (L,A,R) เพื่อเพิ่มระยะ ส่วนนักกอล์ฟที่มีความเร็ววงสวิงสูงกว่าควรเลือกหัวไม้ที่มีก้านแข็ง (s,x) เพื่อเพิ่มความแม่นยำ เราควรเลือกก้านที่มีความยืดหยุ่นมากสุดที่เราสามารถควบคุมได้ ถ้าคุณกำลังจะเลือกระหว่าง Flex R หรือ Flex S ก็ให้เลือก Flex Rดีกว่า


Driver Swing Speed (mph)

Driver Carry Distance (yds.)

Club From 150 yds.

Recommended Flex

105-plus

260+

8 or 9-iron

Extra-Stiff (XS)

90-105

240-260

6 or 7-iron

Stiff (S)

80-95

210-240

5 or 6-iron

Regular (R)

70-85

180-210

4-iron

Senior (A)

Less than 70

Less than 180

3-iron/wood

Ladies (L)

คำถามที่ถูกถามบ่อย

Q: เราได้ประโยชน์อะไรจากการที่เราเลือกหัวไม้ที่ใหญ่กว่า?

A: ถ้าเลือกที่จะเปลี่ยนหัวไม้ใหม่หัวไม้ที่ใหญ่กว่าสามารถช่วยในคุณลดข้อผิด พลาดจากการตีไม่เข้าสวีทสปอตได้มากกว่า หัวไม้ที่ใหญ่กว่าหมายถึงหัวไม้อันนั้นมี MOI ที่มากกว่าซึ่งสามารถช่วยเพิ่มแรงต้านที่ไม่ให้หัวไม้บิดหมุนมากเกินไปถ้า ลูกไม่กระทบตรงกลาง ผลก็คือ แต่ละช็อตของคุณจะมีทิศทางที่ตรงและแม่นยำขึ้น

Q: มีไดรฟเวอร์ที่ช่วยแก้ลูกซไลซ์และฮุ๊คหรือไม่

A: มีไดรฟเวอร์บางตัวที่เราสามารถปรับน้ำหนักที่ด้านใต้ของหัวไม้ เลือกหัวไม้ที่เป็น draw bias เพื่อแก้ลูกซไลซ์ของคุณ แต่ถ้าลูกฮุ๊คก็ต้องเลือกหัวไม้ที่ Slice bias และถ้าต้องการที่จะปรับวิถีการพุ่งของลูก คุณควรเลือกหัวไม้ที่ถอดใส่น้ำหนักเข้าออกได้

Q: จะวัดความเร็ววงสวิงของเราได้ยังไง

A: ให้ติดต่อ club fitter ที่มีเครื่องมือวัดที่จะช่วยให้คุณทราบถึงความเร็ววงสวิง ความเร็วลูกกอล์ฟ มุมที่ลูกพุ่งออกจากหน้าไม้ อัตราการหมุนสปินของลูก และข้อมูลต่างๆซึ่งจะช่วยให้ Club fitte rหาก้าน ลักษณะของหัวไม้และองศาที่เหมาะกับคุณมากที่สุด


Ping iron G 20

Test and Review Ping G20 by www.Spashaft.com

ถ้านับจาก Ping G5 และการออกแบบรุ่นต่อมา Ping ก็ยังคงรักษามุมมองและเอกลักษณ์ของความเป็น G ซีรีย์ไม่ว่าเป็น G10 ,G15 และในที่สุด G20 (4 Generations) เป็นซีรีย์ล่าสุดจาก Ping ถ้าเปรียบเทียบเป็นรถยนต์อาจจะเรียกว่า Minor Change ก็ได้แต่ที่จริงแล้ว G20 ก็มีความแตกต่างจาก G15 พอสมควรโดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึกในการตีที่ตอบสนองต่อการสวิงได้ดีและระยะที่เพิ่มขึ้น

ความเหมือนที่แตกต่าง ถึงแม้ว่า G20 จะดูคล้ายๆ G15 มากและยังมีโครงสร้างที่มีส่วนประกอบที่เรียกว่า " Custom Tuning Port(CTP) " ที่เหมือกันกับ G15 และในช่อง Port มีการเสริมด้วยแผ่นยาง (Elastomer) ที่มีผลอย่างมากในการตีที่จะช่วยลดอาการสั่นได้ดีจากการตีที่ไม่กลางหน้าไม้ และการออกแบบให้มีน้ำหนักส่วนหนึ่งของใบค่อนมาทางด้านปลายใบ G20 ออกแบบให้หน้าใบมีความบางประกอบกับ Sole (พื้นที่ใต้ใบ) ที่ดูกว้างกว่า G15 ทำให้มี CG ที่ลึกตามไสตล์ Cavity ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ G20 สามารถตีได้ทั่วทุกพื้นที่สนาม เหมาะกับนักกอล์ฟในทุกระดับฝีมือ และน่าจะเหมาะกับนักกอล์ฟเอเชียที่ Ping ออกแบบให้ Lie น้อยกว่า G15 อยู่ 2 องศา พร้อมกับขอบใบที่โค้งมนกว่า G15 และสีแบบ Back satin finish

ถ้าจะมองดูรูปทรงอาจไม่เปลี่ยนมากนัก แต่ Ping G20 ก็ให้ความรู้สึก (Feel and Touch) ในการตีที่ต่างจาก G15 อยู่มากพอที่จะจับความรู้สึกได้ใขณะนั้น รวมถึงชดเชยข้อผิดพลาดได้น่าประทับใจ ก็เนื่องจากเหล็กและก้านมีคุณสมบัติที่ตีได้ง่ายมากที่ตีได้ทุกระดับฝีมือ All-Around นักกอล์ฟบางคนอาจวิจารณ์ G20 เป็นแค่เอา G15 มาแต่งหน้าทาปากปรับนิดหน่อย (Cosmetic Change) ซึ่งก็น่าจะเป็นความจริงอยู่บาง และก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับสินค้าทุกชนิดในโลกที่ต้องพัฒนาสินค้าของ ตนให้ดีที่สุดในสายการผลิตนั้นๆ นอกจากจะเปลี่ยนแบบหรือเปลี่ยนโมเดลใหม่หมด

ทดสอบ: Ping iron G 20 # 5,7,PW Graphite Shaft, Steel Shaft

Club Design : Game Improve

Material : Stainless Steel17-4

Body & Structure : Multi-Material Cavity Badge

Trajectory : Mid-high

Club head size : Oversize

Offset : Large (#5 0.28"/ #7 0.24"/ #PW 0.18")

ถึงแม้ว่าสเปคส่วนใหญ่จะเหมือนกับ G15 ก่อนการทดสอบรู้สึกจึงไม่ค่อยตื่นเต้นกับการทดสอบเท่าไรนัก "มันคล้ายกันมาก" แต่ต้องมีอะไรที่ต่างกันแน่นอน ทันทีที่จรดและสวิงไปมา G20 ให้ความรู้สึกเหมือนจะเบากว่าเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องของเหล็กที่ถูกออกแบบมาให้ไม้มีบาลานท์ที่ดีมาก อีกอย่างที่ Ping มีข้อได้เปรียบกว่าเหล็กยี่ห้ออื่นๆตรงที่ Ping มี Fitting Program สำหรับลูกค้าก่อนที่จะเลือกไม้ทำให้เราเข้าใกล้ไม้ที่เหมาะกับนักกอล์ฟมาก ยิ่งขึ้น

เราได้ทดสอบเหล็กทั้งก้านกราไฟล์ (TFC330i) และก้านเหล็ก (NS Pro) ซึ่งไม่ค่อยมีความแต่ต่างมากนักในเรื่องของประสิทธิภาพของเหล็กและระยะที่ ได้ ทั้งสองก้านสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพก็ขึ้นอยู่กับความเร็วหัวไม้และ จังหวะการตีของนักกอล์ฟแต่ละท่าน ระยะที่ได้ค่อนข้างดีทั้งสองก้าน เราได้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขด้วย Launch Monitor โดยผู้ทดสอบมีสวิงที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ

Swing Speed ของผู้ทดสอบเหล็ก #5 / 88 mph. เหล็ก #7/ 81.2 mph

ตีด้วยก้าน N.S.PRO 950 Flex R Weight 95g #5 #7 #PW

Head Speed(mph) 120 110 95

Carry 183y 162y 137y

ตีด้วยก้าน:PingTFC 330I Flex R Weight 74g #5 #7 #PW

Head Speed(mph) 119 111 94

Carry 180y 160y 134y

ตัวเลขที่ได้ค่อนข้างดีผู้ทดสอบมีจังหวะการตีที่ค่อนข้างราบเรียบไม่กระชาก มีช่วงจังหวะในการคลายข้อมือเร็ว **(wrist cock-Release)** ในช่วงดาวน์สวิง ถ้าให้เลือกก้านนักกอล์ฟท่านนี้น่าจะเหมาะกับก้านกราไฟล์มากกว่า ส่วนระยะที่ได้ค่อนข้างดีอาจเนื่องมาจาก Ping G20 มีองศาที่ค่อนข้างชัน เราวัดองศาเหล็ก7ได้ 32* การควบคุมไม้ในขณะสวิงทำได้ดี ลูกที่พุ่งออกจากหน้าไม้เร็วและมีวีถีของลูกไม่โด่งมากนักในการตีก้านเหล็ก ส่วนก้านกราไฟล์ลูกโด่งกว่า จุดตก (Carry) และวิ่งไปข้างหน้าไม่มากนักระยะเฉลี่ยไม่เกิน4หลาจากจุดตก ถ้าตีแบบดุดันเหล็ก5ทำระยะได้200หลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจเท่าไรเพราะองศาของเหล็กชุดนี้ค่อนข้างชัน

Club

3

4

5

6

7

8

9

PW

AW

SW

LW

Length

38.75"

38.25"

37.75"

37.25"

36.75"

36.25"

35.75"

35.50"

35.50"

35.25"

35.00"

Loft

20

23

26

29

32

36

40

45

50

54

58

Lie

59.25

60.00

60.75

61.50

62.26

63.00

63.75

64.00

64.00

64.25

64.50

Offset

0.32

0.30

0.28

0.26

0.24

0.22

0.20

0.18

0.15

0.13

0.10

Bounce

-2.0

0.0

2.0

4.0

6.0

8.0

9.0

10.0

11.0

12.0

12.0

Swgt.

D0

D0

D0

D0

D0

D0

D0

D2

D2

D4

D6


ถ้าจะพูดถึงข้อดีและประสิทธิภาพของ Ping G20 คิดว่าน่าจะเพียงพอที่นักกอล์ฟเลือกชุดเหล็กจาก Ping ที่มีคุณสมบัติที่ดีและยังมีการฟิตติ๊งให้กับนักกอล์ฟแต่ละท่านได้ ส่วนข้อติชมก็อาจจะเป็นเรื่องของลักษณะใบที่ค่อนข้างใหญ่ที่ขัดกับความ รู้สึกของนักกอล์ฟบางคนที่ชอบเหล็กใบบางคมกว่าเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจระหว่างประสิทธิภาพของเหล็กกับสไตล์ของเหล็ก ที่เราชอบว่าเราควรเลือกเหล็กแบบไหน

**เรามาพูดถึงความหมายของคำว่า "Wrist Cock-Release" กันดีกว่าเมื่อเรากำลังดาวน์สวิง ตราบใดที่เรายังเก็บข้อมืออยู่โดยที่เรายังไม่คลายข้อมือ มือและหัวไม้ก็จะยังเคลื่อนที่ด้วยสปีดที่เท่ากัน เมื่อคุณคลายข้อมือแขนของคุณจะช้าลงแต่ก้านไม้จะถูกเร่งความเร็วหัวไม้ (Centrifugal force : แรงเหวี่ยงหนี้ศูนย์กลาง) ซึ่งหัวไม้ที่ถูกลากมาหลังก้านตลอดทางตอนนี้เริ่มตอบสนองกับการที่แขนช้าลง และถูกเหวี่ยงออกด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนยกลาง ทำให้หัวไม้นำหน้าก้านและจะโค้งไปทางด้านหน้าเล็กน้อยลักษณะนี้เป็นการเพิ่ม องศาหน้าไม้ในขณะอิมแพคและยังเป็นการเพิ่ม Launch Angle (มุมเหิน) ซึ่งมีอิทธิพลต่อวิถีการพุ่งของลูกและในที่สุดแล้วก็มีผลต่อระยะของลูกที่จะ เดินทางออกจากหน้าไม้

แต่ก็ไม่ใช่ทุกสวิงสปีดจะมีลักษณะนี้เหมือนกันหมด ตอนนี้เราจะยกตัวอย่างของอาการ Wrist Cock – Release (การคลายข้อมือ) ของนักกอล์ฟสามคนที่มีการคลายข้อมือในลักษณะที่ต่างกันไป

คนแรกมีการคลายข้อมือเริ่มตั้งแต่ตอนดาวน์สวิง

คนที่สองมีการคลายข้อมือตรงช่วงกลางขณะดาวน์สวิง

คนที่สามมีการคลายข้อมือตรงช่วงปลายใกล้ช่วงอิมแพค

จากนักกอล์ฟคนแรกจะทำให้ก้านโค้งไปข้างหน้าเร็วเกินไปทำให้ก้านเข้าอิมแพคใน ลักษณะที่เป็นเส้นตรงทำให้วิถีลูกที่พุ่งออกจากหน้าไม้ไม่โด่งและมีมุมเหิน ที่น้อย ถ้าเปรียบเทียบนักกอล์ฟคนที่สองจะดีกว่านักกอล์ฟคนแรก และถ้านักกอล์ฟคนที่สามจะดีที่สุดในเสียววินาทีก่อนอิมแพคที่เราจะเห็นได้ บ่อยๆในวงสวิงของโปรทัวร์ทั้งหลายที่แข่งในทัวร์นาเมนท์ต่างๆทั่วโลก

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือสมมุติว่านักกอล์ฟทั้งสามท่านมี "สวิงสปีดที่เท่ากัน" และ "คุณคิดว่านักกอล์ฟทั้งสามคนนี้ควรจะใช้ก้านแบบเดียวกันหรือเปล่า"

ก้านไม้จะเริ่มทำงานเมื่อเราเริ่มการเคลื่อนไหวของข้อมือ เราต้องหาก้านที่เหมาะกับความเร็วหัวไม้และเข้ากับจังหวะคลายข้อมือ (Wrist Cock-Release) ซึ่งเป็นข้อมูลหนึ่งที่สำคัญในการทำ Club Fitting