วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Cleveland wedge

Cleveland wedge

Test & Review : Cleveland wedge CG 16 ไม่มีใครไม่รู้จักเวดจ์จาก Cleveland ที่มีประวัติยาวนานสร้างผลงานมากมายนับไม่ถ้วนตั้งแต่นักกอล์ฟมือสมัครเล่น ไปจนถึงโปรมืออาชีพที่ต่างก็มีเวดจ์จาก Cleveland ในถุงกอล์ฟของพวกเขาถ้าจำไม่ผิด Cleveland น่าจะเป็นเจ้าแรกที่ทำให้ทุกคนรู้จักเวดจ์ที่หน้าเป็นสนิมและผลิตภัณท์เวดจ์ จาก Cleveland ก็น่าจะเป็นเวดจ์ที่มีหลากหลายองศาและมีระบบการเลือกเวดจ์ไว้รองรับความต้อง การของนักอล์ฟมากพอควร

The Cleveland Wedge CG16 2011 เป็นเวดจ์น้องสุดท้องที่สืบทอดมาจาก CG15 ที่ออกเมื่อปีที่แล้ว และเป็นครั้งแรกที่ Cleveland ใช้วีธิการที่เรียกว่า Laser Milled Club Face จนทำให้เวดจ์จากคลีฟแลนด์ได้รางวัลเหรียญทองจากนิตยาสารชั้นนำ

คลีฟแลนด์เวดจ์ตัวใหม่ปรับรู้ทรงต่างออกไปจาก CG15 ซึ่งจะดูคล้ายๆ CG14 มากกว่า มันมีขนาดที่ดูดี และมี Offset เพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ก็ใช้เทคโนโลยี่ "Spin Technology" ของ CG15

การออกแบบดูกลมกลืนทั้งขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก เวดจ์ที่ใช้ทดสอบมีทั้งสี satin Finishและ Black Pearl ส่วนหน้าใบเวลาจรดจะมองเห็นเส้น Score line ได้ชัดเจนทำให้ง่ายต่อการเล็งและรู้สึกมั่นใจเวลาอิมแพคบอล และในการออกรอบเล่นในสภาพที่แดดจัดเวดจ์ Black Pearl สามารถช่วยลดแสงสะท้อนได้ดีเช่นกัน

Test: Cleveland Wedge CG16: 50,52,56,58,60

คุณสมบัติ: Laser Milled Face เวดจ์ CG16 ใช้เทคนิคที่เรียกว่า "Laser milled surface roughness technology" ที่มีความเที่ยงตรงในการกัดเซาะร่องเหล็กตลอดจนผิวหน้าของเวดจ์ด้วยเลเซอร์ ที่มีความแม่นยำสูง ทำให้ร่องมีสัดส่วนที่สม่ำเสมอทั้งความกว้างยาวและลึก ยังสามารถสร้างผิวหน้าสัมผัสที่นอกเหนือจากร่องเหล็กให้มี Texture ทำให้เกิดการสปินลูกได้สูงสุดในการตีขึ้นกรีนและในขณะเดียวกันก็ยังอยู่ในกฎ USGA Rules

Wedge Cavity back การออกแบบใบเวดจ์เป็นแบบ Cavity Back ซึ่งแตกต่างจากรุ่นก่อนทำให้เวดจ์มี CG ต่ำและยังมี MOI ที่สูงทำให้เวดจ์มีความเสถียรในช่วงอิมแพคบอลสามารถลดข้อผิดพลาดได้ดีถึงแม้ ตีไม่เข้ากลางหน้าไม้ โดยเฉพาะเวดจ์ CG16/56* ด้วยการออกแบบในลักษณะนี้ (Cavity Back) ยิ่งทำให้เวดจ์สามารถระเบิดทรายได้ดีและยังเกิดมุมที่ชันกว่าในช่วงดาวน์ สวิงประกอบกับ Bounce ที่มีองศาที่ลงตัวยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการระเบิดทรายมากขึ้น

C Sole Design จากฐานใบที่กว้างและเรียวมันตั้งแต่หัวจรดท้าย และที่ขอบใบจากปลายเหล็กไปยังโคนในลักษณะโค้งเป็น C Sole ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เวดจ์ CG16 สามารถตีลูกขึ้นจากทรายหรือตีขึ้นกรีนในระยะต่างๆตั้งแต่ 100 หลาลงมาได้อย่างเฉียบคมและสมบรูณ์แบบ

Tour Zip Grooves ด้วยเทคโนโลยี่ที่แม่นยำในการกัดเซาะร่อง " Milled Technology" ที่มีใน CG16 ทำให้ขอบและร่องมีความสม่ำเสมอและคมตลอดตามแนวร่องของเหล็กทั้งความกว้างยาว และลึกทำให้เหล็กจับลูกได้ดีมีสปินสูงสุดในทุกๆความเร็วของสวิงสปีดและยัง อยู่ในกฎ Conforming to The 2011 USGA Groove

Cleveland Golf Traction Shaft เป็นก้านที่ออกแบบมาเพื่อการตีที่สามารถควบคุมจังหวะและความเร็วได้ดีสร้าง สปินสูงและยังคงความนุ่มนวล ส่วนปลายที่อ่อนกว่าช่วยให้ลูกเกาะหน้าไม้และสัมผัสกับร่องเหล็กได้มากกว่า สร้างมุมเหินและสปินสูง

Bounce Fitting System เวดจ์ CG16 มาพร้อมกับ Bounce สองแบบให้เลือกคือแบบ ต่ำ(Low) และแบบมาตราฐาน(Standard)

Low bounce จุดสีหนึ่งจุด 1Dot เหมาะกับสภาพสนามที่ค่อนข้างแน่น หญ้าสั้นๆ พื้นที่ค่อนข้างแข็ง หรือบ่อทรายที่ทรายแน่น เหมาะกับตีระเบิดทรายในหน้าฝน Bounce ที่ต่ำทำให้หน้าเหล็กสามารถสอดลูกหรือตีผ่านลูกได้ง่ายกว่า และยังเหมาะกับนักกอล์ฟที่ตีแบบ Flat หรือวงสวิงที่ค่อนข้างแบน หรือนักกอล์ฟที่ชอบตีแบบเด็ดลูก Bounce ที่องศาน้อยสามารถช่วยให้ตีเหล็กได้คมขึ้น ช่วยลดอาการลื่นไถลของใบเหล็ก

Standard Bounce จุดสีสองจุด 2 Dot เหมาะกับการเล่นในสภาพสนามปกติ สามารถเล่นได้ทุกพื้นที่สนามช่วยแก้ไขซ็อตต่างๆได้หรือตีในทรายที่นิ่มหรือ ฟู Bounce ที่มีองศามากจะช่วยให้เหล็กไม่ขุดทรายลึกเกินไปในซ็อตระเบิดทราย Standard Bounce ยังเหมาะกับการตีแบบขึ้นลงชันๆหรือนักกอล์ฟประเภทตีแบบ Upright Swing เพราะจะช่วยไม่ให้หน้าเหล็กขุดลงดินมากเกินไปในช่วงดาวน์สวิง

จากการทดสอบ Cleveland CG16 ที่ใช้ทดสอบ 50*/52*/56*/58*/60* กับก้าน Traction shaft เหล็กทุกองศาให้ความรู้สึกที่เรียกว่าแน่น(Solid feel) น้ำหนักรวมของเหล็กในขณะสวิงไม่รู้สึกหนักและง่ายต่อการควบคุมเหล็กในขณะ ขึ้นไม้จึงไม่น่าเกิดปัญหากับนักกอล์ฟที่มีสวิงสปีดช้า ที่บางคนไม่สามารถเล่นเวดจ์ประเภทนี้ได้ ส่วนก้านที่ออกแบบมาให้มีส่วนปลายที่อ่อนกว่าทำให้หน้าเหล็กสอดลูกคม นุ่มและสปินสูงตามสไตล์ก้านเวดจ์ (New style Wedge Shaft) ผิวหน้าเหล็กที่มี Texture และร่อง(Groove) ที่เป็น Milled Face ช่วยสร้างสปิน ประกอบกับสีที่เป็นสีดำ(Black Pearl) รู้สึกสบายตาเวลาจรดลูกกลางแดด ส่วนองศาของ Bounce ในเวดจ์ 50* และ 52* ที่ไม่มากนักทำให้สามารถตีซ็อตขึ้นกรีนในระยะที่เกินกว่า 80 หลาได้ดีมาก ส่วนในขณะระเบิดทรายหน้าเหล็กและ Bounce ทำงานสัมพันธ์กับจังหวะสวิง

เราได้ทดสอบด้วย Launch Monitor ผู้ทดสอบมีสวิงสปีดที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ(Touring Pro) โดยการตีแบบ Combination swing ซึ่งเป็นการตีแบบกำหนดขนาดของสวิง ตัวเลขที่ได้เป็นค่าเฉลี่ยของแวดจ์แต่ละองศา


Cleveland CG16 50* 52* 56*
58* 60*
total/yard
102 92 79 55
49
Carry/yard 101 91
78 55 49
Club speed 62 59 51 47
44
Ball speed 79 73 66 53 49
Back spin 7795 8567 8247 9314 8905
Max high/yard 27 25 22 15 13
Offline distance 5/y 7/y 4/y 3/y 2/y
Classification Push Push Straight Push Push

จากตัวเลขข้างบนบอกเราใหเห็นการทำงานของเหล็กที่สม่ำเสมอและควบคุมง่ายระยะ ต่างๆที่ได้สัมพันธ์กับความเร็วหัวไม้ส่วนค่าสปินเรทนั้นขึ้นอยู่กับการตี เข้าบอลของแต่ละคนแต่ถ้ากล่าวโดยรวมแล้ว CG16 ให้ผลงานได้ดีเกินคาดและจัดเป็นเวดจ์ที่ตีง่ายเหมาะกับนักกอล์ฟในทุกระดับ ฝีมือ

เรื่องของ Bounce ความแต่ต่างที่เห็นได้ชัดเจนในเวดจ์เมื่อเทียบกับเหล็กอื่นๆก็คือลักษณะที่ เราเรียกว่า Bounce เพราะเหล็กตัวอื่นในชุดเหล็กทั้งหมดจะมีลักษณะเป็นแนวฉากกันเวลาที่เราวาง เหล็กจรดลูกมันก็จะแนบไปกับพื้นโดยเฉพาะส่วนขอบใบที่เราเรียกว่า Leading edge แต่ในเวดจ์เมื่อเวลาที่เราจรดในตำแหน่งเดียวกันตรงส่วนขอบหรือ Leading edge มันจะถูกยกขึ้นมาจากพื้นนิดหน่อย ส่วนที่เพิ่มขึ้นตรงนี้มันทำให้เกิดสามสิ่ง

ข้อแรก/ก็คือมันต้อง การพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นในส่วนนั้น ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักหัวไม้นั้นด้วยและยังเป็นการเพิ่มแรงเหวี่ยง momentum ทำให้น้ำหนักที่เพิ่มอยู่ต่ำและค่อนไปทางด้านหน้าของหน้าไม้ทำให้มุมที่พุ่ง ออกจากหน้าไม้เป็นมุมโด่ง

ข้อสอง/คือ มุมหรือเนื้อที่ๆเพิ่มขึ้นทำให้เวลาจรดลูกขอบใบจะอยู่สูงขึ้นจากพื้น และในขณะที่สวิงถึงจุดต่ำสุดมันจะเป็นการป้องกันไม่ให้หัวไม้นั้นขุดลึกลงไป ในไลน์ที่มีสภาพที่นุ่มหรือพื้นที่ทีฟูหรือหญ้าหนารวมถึงที่เป็นเปียกแชะ มันทำให้เรามีความยืดหยุ่นของการวางตำแหน่งลูกในการตีได้ ซึ่งคุณอาจวางลูกตรงกลางเท้าแล้วตีแบบปกติ ซึ่งหัวไม้มันจะผ่านพื้นที่ก่อนที่จะถึงลูกก่อนแล้วค่อยสัมผัสลูก (คุณอาจเคยเห็นภาพช้าในตอนที่โปรตีเวดจ์ในทัวร์ต่างๆตี) หรือคุณอาจวางตำแหน่งบอลมาทางด้านขวาของเท้าและตีเข้าบอลก่อนที่วงสวิงจะถึง จุดต่ำสุดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสำหรับช็อตแบบนี้ก็คือเมื่อ หน้าไม้มันถูกลูกตอนที่มันไม่อยู่ต่ำสุด องศาหน้าไม้จะลดลงเล็กน้อยลูกจะพุ่งออกจากหน้าไม้ด้วยมุมที่ต่ำและสามารถ เพิ่มระยะทางได้ แต่ถ้าไม่มี Bounce ในเวดจ์ช็อตเหล่านี้ถ้าตีให้ถูกต้องมันจะทำให้หน้าไม้ขุดลงไปในพื้นหลังจาก อิมแพคลูก ซึ่งเหล็กที่มีองศามากขนาดนี้เมื่อมันขุดลงไปในพื้นมันทำให้นักกอล์ฟไม่ สามารถจบวงสวิงได้หรืออาจบาดเจ็บก็ได้

ข้อสาม/เวลา ที่เราเล่นในบังเกอร์ส่วนมากแล้วลูกกอล์ฟจะถูกฝังอยู่ในทรายซึ่งมีลักษณะที่ ตื่้นลึกแตกต่างกันออกไปของทรายที่ต่างกัน ก็แล้วแต่เหล็กที่ตีมาในวีถีที่ต่างกันด้วย บางทีลูกอาจจะจมอยู่ในทรายในลักษณะนี้เราไม่สามารถตีในหน้าเหล็กเข้าปะทะลูก ได้ตรงๆ หรืออาจจะต้องตีให้ลึกลงไป 3-4ซ.ม. เพราะฉะนั้นการที่เรามี Bounce ที่มีองศาต่างๆมันทำให้มีแรงต้านหรือแรงขุดและเพิ่มแรงกดลงไปที่หน้าไม้ ทำให้มันสามารถฝังตัวเองได้ลึกลงไปในทราย มันจึงทำให้ง่ายในการที่จะนำหัวไม้ประเภทนี้ลงไปในทรายและสามารถสวิงผ่าน ทรายพร้อมกลับดันลูกขึ้นมาจากบ่อทรายได้ ส่วนไม้อื่นๆโดยเฉพาะเหล็กสั้นหรือเวดจ์อันอื่นก็เริ่มมีการเพิ่มองศานิด หน่อยใน Bounce แล้ว เพื่อจะช่วยให้นักกอล์ฟสามารตีผ่านหญ้าหนาๆ หรือพื้นในลักษณะที่นุ่มได้ง่ายขึ้น แต่ Sand wedge ก็ยังเป็นไม้เดียวที่มีองศาของ Bounce สูงสุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น