วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Ping iron G 20

Test and Review Ping G20 by www.Spashaft.com

ถ้านับจาก Ping G5 และการออกแบบรุ่นต่อมา Ping ก็ยังคงรักษามุมมองและเอกลักษณ์ของความเป็น G ซีรีย์ไม่ว่าเป็น G10 ,G15 และในที่สุด G20 (4 Generations) เป็นซีรีย์ล่าสุดจาก Ping ถ้าเปรียบเทียบเป็นรถยนต์อาจจะเรียกว่า Minor Change ก็ได้แต่ที่จริงแล้ว G20 ก็มีความแตกต่างจาก G15 พอสมควรโดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึกในการตีที่ตอบสนองต่อการสวิงได้ดีและระยะที่เพิ่มขึ้น

ความเหมือนที่แตกต่าง ถึงแม้ว่า G20 จะดูคล้ายๆ G15 มากและยังมีโครงสร้างที่มีส่วนประกอบที่เรียกว่า " Custom Tuning Port(CTP) " ที่เหมือกันกับ G15 และในช่อง Port มีการเสริมด้วยแผ่นยาง (Elastomer) ที่มีผลอย่างมากในการตีที่จะช่วยลดอาการสั่นได้ดีจากการตีที่ไม่กลางหน้าไม้ และการออกแบบให้มีน้ำหนักส่วนหนึ่งของใบค่อนมาทางด้านปลายใบ G20 ออกแบบให้หน้าใบมีความบางประกอบกับ Sole (พื้นที่ใต้ใบ) ที่ดูกว้างกว่า G15 ทำให้มี CG ที่ลึกตามไสตล์ Cavity ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ G20 สามารถตีได้ทั่วทุกพื้นที่สนาม เหมาะกับนักกอล์ฟในทุกระดับฝีมือ และน่าจะเหมาะกับนักกอล์ฟเอเชียที่ Ping ออกแบบให้ Lie น้อยกว่า G15 อยู่ 2 องศา พร้อมกับขอบใบที่โค้งมนกว่า G15 และสีแบบ Back satin finish

ถ้าจะมองดูรูปทรงอาจไม่เปลี่ยนมากนัก แต่ Ping G20 ก็ให้ความรู้สึก (Feel and Touch) ในการตีที่ต่างจาก G15 อยู่มากพอที่จะจับความรู้สึกได้ใขณะนั้น รวมถึงชดเชยข้อผิดพลาดได้น่าประทับใจ ก็เนื่องจากเหล็กและก้านมีคุณสมบัติที่ตีได้ง่ายมากที่ตีได้ทุกระดับฝีมือ All-Around นักกอล์ฟบางคนอาจวิจารณ์ G20 เป็นแค่เอา G15 มาแต่งหน้าทาปากปรับนิดหน่อย (Cosmetic Change) ซึ่งก็น่าจะเป็นความจริงอยู่บาง และก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับสินค้าทุกชนิดในโลกที่ต้องพัฒนาสินค้าของ ตนให้ดีที่สุดในสายการผลิตนั้นๆ นอกจากจะเปลี่ยนแบบหรือเปลี่ยนโมเดลใหม่หมด

ทดสอบ: Ping iron G 20 # 5,7,PW Graphite Shaft, Steel Shaft

Club Design : Game Improve

Material : Stainless Steel17-4

Body & Structure : Multi-Material Cavity Badge

Trajectory : Mid-high

Club head size : Oversize

Offset : Large (#5 0.28"/ #7 0.24"/ #PW 0.18")

ถึงแม้ว่าสเปคส่วนใหญ่จะเหมือนกับ G15 ก่อนการทดสอบรู้สึกจึงไม่ค่อยตื่นเต้นกับการทดสอบเท่าไรนัก "มันคล้ายกันมาก" แต่ต้องมีอะไรที่ต่างกันแน่นอน ทันทีที่จรดและสวิงไปมา G20 ให้ความรู้สึกเหมือนจะเบากว่าเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องของเหล็กที่ถูกออกแบบมาให้ไม้มีบาลานท์ที่ดีมาก อีกอย่างที่ Ping มีข้อได้เปรียบกว่าเหล็กยี่ห้ออื่นๆตรงที่ Ping มี Fitting Program สำหรับลูกค้าก่อนที่จะเลือกไม้ทำให้เราเข้าใกล้ไม้ที่เหมาะกับนักกอล์ฟมาก ยิ่งขึ้น

เราได้ทดสอบเหล็กทั้งก้านกราไฟล์ (TFC330i) และก้านเหล็ก (NS Pro) ซึ่งไม่ค่อยมีความแต่ต่างมากนักในเรื่องของประสิทธิภาพของเหล็กและระยะที่ ได้ ทั้งสองก้านสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพก็ขึ้นอยู่กับความเร็วหัวไม้และ จังหวะการตีของนักกอล์ฟแต่ละท่าน ระยะที่ได้ค่อนข้างดีทั้งสองก้าน เราได้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขด้วย Launch Monitor โดยผู้ทดสอบมีสวิงที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ

Swing Speed ของผู้ทดสอบเหล็ก #5 / 88 mph. เหล็ก #7/ 81.2 mph

ตีด้วยก้าน N.S.PRO 950 Flex R Weight 95g #5 #7 #PW

Head Speed(mph) 120 110 95

Carry 183y 162y 137y

ตีด้วยก้าน:PingTFC 330I Flex R Weight 74g #5 #7 #PW

Head Speed(mph) 119 111 94

Carry 180y 160y 134y

ตัวเลขที่ได้ค่อนข้างดีผู้ทดสอบมีจังหวะการตีที่ค่อนข้างราบเรียบไม่กระชาก มีช่วงจังหวะในการคลายข้อมือเร็ว **(wrist cock-Release)** ในช่วงดาวน์สวิง ถ้าให้เลือกก้านนักกอล์ฟท่านนี้น่าจะเหมาะกับก้านกราไฟล์มากกว่า ส่วนระยะที่ได้ค่อนข้างดีอาจเนื่องมาจาก Ping G20 มีองศาที่ค่อนข้างชัน เราวัดองศาเหล็ก7ได้ 32* การควบคุมไม้ในขณะสวิงทำได้ดี ลูกที่พุ่งออกจากหน้าไม้เร็วและมีวีถีของลูกไม่โด่งมากนักในการตีก้านเหล็ก ส่วนก้านกราไฟล์ลูกโด่งกว่า จุดตก (Carry) และวิ่งไปข้างหน้าไม่มากนักระยะเฉลี่ยไม่เกิน4หลาจากจุดตก ถ้าตีแบบดุดันเหล็ก5ทำระยะได้200หลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจเท่าไรเพราะองศาของเหล็กชุดนี้ค่อนข้างชัน

Club

3

4

5

6

7

8

9

PW

AW

SW

LW

Length

38.75"

38.25"

37.75"

37.25"

36.75"

36.25"

35.75"

35.50"

35.50"

35.25"

35.00"

Loft

20

23

26

29

32

36

40

45

50

54

58

Lie

59.25

60.00

60.75

61.50

62.26

63.00

63.75

64.00

64.00

64.25

64.50

Offset

0.32

0.30

0.28

0.26

0.24

0.22

0.20

0.18

0.15

0.13

0.10

Bounce

-2.0

0.0

2.0

4.0

6.0

8.0

9.0

10.0

11.0

12.0

12.0

Swgt.

D0

D0

D0

D0

D0

D0

D0

D2

D2

D4

D6


ถ้าจะพูดถึงข้อดีและประสิทธิภาพของ Ping G20 คิดว่าน่าจะเพียงพอที่นักกอล์ฟเลือกชุดเหล็กจาก Ping ที่มีคุณสมบัติที่ดีและยังมีการฟิตติ๊งให้กับนักกอล์ฟแต่ละท่านได้ ส่วนข้อติชมก็อาจจะเป็นเรื่องของลักษณะใบที่ค่อนข้างใหญ่ที่ขัดกับความ รู้สึกของนักกอล์ฟบางคนที่ชอบเหล็กใบบางคมกว่าเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจระหว่างประสิทธิภาพของเหล็กกับสไตล์ของเหล็ก ที่เราชอบว่าเราควรเลือกเหล็กแบบไหน

**เรามาพูดถึงความหมายของคำว่า "Wrist Cock-Release" กันดีกว่าเมื่อเรากำลังดาวน์สวิง ตราบใดที่เรายังเก็บข้อมืออยู่โดยที่เรายังไม่คลายข้อมือ มือและหัวไม้ก็จะยังเคลื่อนที่ด้วยสปีดที่เท่ากัน เมื่อคุณคลายข้อมือแขนของคุณจะช้าลงแต่ก้านไม้จะถูกเร่งความเร็วหัวไม้ (Centrifugal force : แรงเหวี่ยงหนี้ศูนย์กลาง) ซึ่งหัวไม้ที่ถูกลากมาหลังก้านตลอดทางตอนนี้เริ่มตอบสนองกับการที่แขนช้าลง และถูกเหวี่ยงออกด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนยกลาง ทำให้หัวไม้นำหน้าก้านและจะโค้งไปทางด้านหน้าเล็กน้อยลักษณะนี้เป็นการเพิ่ม องศาหน้าไม้ในขณะอิมแพคและยังเป็นการเพิ่ม Launch Angle (มุมเหิน) ซึ่งมีอิทธิพลต่อวิถีการพุ่งของลูกและในที่สุดแล้วก็มีผลต่อระยะของลูกที่จะ เดินทางออกจากหน้าไม้

แต่ก็ไม่ใช่ทุกสวิงสปีดจะมีลักษณะนี้เหมือนกันหมด ตอนนี้เราจะยกตัวอย่างของอาการ Wrist Cock – Release (การคลายข้อมือ) ของนักกอล์ฟสามคนที่มีการคลายข้อมือในลักษณะที่ต่างกันไป

คนแรกมีการคลายข้อมือเริ่มตั้งแต่ตอนดาวน์สวิง

คนที่สองมีการคลายข้อมือตรงช่วงกลางขณะดาวน์สวิง

คนที่สามมีการคลายข้อมือตรงช่วงปลายใกล้ช่วงอิมแพค

จากนักกอล์ฟคนแรกจะทำให้ก้านโค้งไปข้างหน้าเร็วเกินไปทำให้ก้านเข้าอิมแพคใน ลักษณะที่เป็นเส้นตรงทำให้วิถีลูกที่พุ่งออกจากหน้าไม้ไม่โด่งและมีมุมเหิน ที่น้อย ถ้าเปรียบเทียบนักกอล์ฟคนที่สองจะดีกว่านักกอล์ฟคนแรก และถ้านักกอล์ฟคนที่สามจะดีที่สุดในเสียววินาทีก่อนอิมแพคที่เราจะเห็นได้ บ่อยๆในวงสวิงของโปรทัวร์ทั้งหลายที่แข่งในทัวร์นาเมนท์ต่างๆทั่วโลก

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือสมมุติว่านักกอล์ฟทั้งสามท่านมี "สวิงสปีดที่เท่ากัน" และ "คุณคิดว่านักกอล์ฟทั้งสามคนนี้ควรจะใช้ก้านแบบเดียวกันหรือเปล่า"

ก้านไม้จะเริ่มทำงานเมื่อเราเริ่มการเคลื่อนไหวของข้อมือ เราต้องหาก้านที่เหมาะกับความเร็วหัวไม้และเข้ากับจังหวะคลายข้อมือ (Wrist Cock-Release) ซึ่งเป็นข้อมูลหนึ่งที่สำคัญในการทำ Club Fitting


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น