Test and Review Ping G20 by www.Spashaft.com
ถ้านับจาก Ping G5 และการออกแบบรุ่นต่อมา Ping ก็ยังคงรักษามุมมองและเอกลักษณ์ของความเป็น G ซีรีย์ไม่ว่าเป็น G10 ,G15 และในที่สุด G20 (4 Generations) เป็นซีรีย์ล่าสุดจาก Ping ถ้าเปรียบเทียบเป็นรถยนต์อาจจะเรียกว่า Minor Change ก็ได้แต่ที่จริงแล้ว G20 ก็มีความแตกต่างจาก G15 พอสมควรโดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึกในการตีที่ตอบสนองต่อการสวิงได้ดีและระยะที่เพิ่มขึ้น
ความเหมือนที่แตกต่าง ถึงแม้ว่า G20 จะดูคล้ายๆ G15 มากและยังมีโครงสร้างที่มีส่วนประกอบที่เรียกว่า " Custom Tuning Port(CTP) " ที่เหมือกันกับ G15 และในช่อง Port มีการเสริมด้วยแผ่นยาง (Elastomer) ที่มีผลอย่างมากในการตีที่จะช่วยลดอาการสั่นได้ดีจากการตีที่ไม่กลางหน้าไม้ และการออกแบบให้มีน้ำหนักส่วนหนึ่งของใบค่อนมาทางด้านปลายใบ G20 ออกแบบให้หน้าใบมีความบางประกอบกับ Sole (พื้นที่ใต้ใบ) ที่ดูกว้างกว่า G15 ทำให้มี CG ที่ลึกตามไสตล์ Cavity ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ G20 สามารถตีได้ทั่วทุกพื้นที่สนาม เหมาะกับนักกอล์ฟในทุกระดับฝีมือ และน่าจะเหมาะกับนักกอล์ฟเอเชียที่ Ping ออกแบบให้ Lie น้อยกว่า G15 อยู่ 2 องศา พร้อมกับขอบใบที่โค้งมนกว่า G15 และสีแบบ Back satin finish
ถ้าจะมองดูรูปทรงอาจไม่เปลี่ยนมากนัก แต่ Ping G20 ก็ให้ความรู้สึก (Feel and Touch) ในการตีที่ต่างจาก G15 อยู่มากพอที่จะจับความรู้สึกได้ใขณะนั้น รวมถึงชดเชยข้อผิดพลาดได้น่าประทับใจ ก็เนื่องจากเหล็กและก้านมีคุณสมบัติที่ตีได้ง่ายมากที่ตีได้ทุกระดับฝีมือ All-Around นักกอล์ฟบางคนอาจวิจารณ์ G20 เป็นแค่เอา G15 มาแต่งหน้าทาปากปรับนิดหน่อย (Cosmetic Change) ซึ่งก็น่าจะเป็นความจริงอยู่บาง และก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับสินค้าทุกชนิดในโลกที่ต้องพัฒนาสินค้าของ ตนให้ดีที่สุดในสายการผลิตนั้นๆ นอกจากจะเปลี่ยนแบบหรือเปลี่ยนโมเดลใหม่หมด
ทดสอบ: Ping iron G 20 # 5,7,PW Graphite Shaft, Steel Shaft
Club Design : Game Improve
Material : Stainless Steel17-4
Body & Structure : Multi-Material Cavity Badge
Trajectory : Mid-high
Club head size : Oversize
Offset : Large (#5 0.28"/ #7 0.24"/ #PW 0.18")
ถึงแม้ว่าสเปคส่วนใหญ่จะเหมือนกับ G15 ก่อนการทดสอบรู้สึกจึงไม่ค่อยตื่นเต้นกับการทดสอบเท่าไรนัก "มันคล้ายกันมาก" แต่ต้องมีอะไรที่ต่างกันแน่นอน ทันทีที่จรดและสวิงไปมา G20 ให้ความรู้สึกเหมือนจะเบากว่าเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องของเหล็กที่ถูกออกแบบมาให้ไม้มีบาลานท์ที่ดีมาก อีกอย่างที่ Ping มีข้อได้เปรียบกว่าเหล็กยี่ห้ออื่นๆตรงที่ Ping มี Fitting Program สำหรับลูกค้าก่อนที่จะเลือกไม้ทำให้เราเข้าใกล้ไม้ที่เหมาะกับนักกอล์ฟมาก ยิ่งขึ้น
เราได้ทดสอบเหล็กทั้งก้านกราไฟล์ (TFC330i) และก้านเหล็ก (NS Pro) ซึ่งไม่ค่อยมีความแต่ต่างมากนักในเรื่องของประสิทธิภาพของเหล็กและระยะที่ ได้ ทั้งสองก้านสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพก็ขึ้นอยู่กับความเร็วหัวไม้และ จังหวะการตีของนักกอล์ฟแต่ละท่าน ระยะที่ได้ค่อนข้างดีทั้งสองก้าน เราได้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขด้วย Launch Monitor โดยผู้ทดสอบมีสวิงที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ
Swing Speed ของผู้ทดสอบเหล็ก #5 / 88 mph. เหล็ก #7/ 81.2 mph
ตีด้วยก้าน N.S.PRO 950 Flex R Weight 95g #5 #7 #PW
Head Speed(mph) 120 110 95
Carry 183y 162y 137y
ตีด้วยก้าน:PingTFC 330I Flex R Weight 74g #5 #7 #PW
Head Speed(mph) 119 111 94
Carry 180y 160y 134y
ตัวเลขที่ได้ค่อนข้างดีผู้ทดสอบมีจังหวะการตีที่ค่อนข้างราบเรียบไม่กระชาก มีช่วงจังหวะในการคลายข้อมือเร็ว **(wrist cock-Release)** ในช่วงดาวน์สวิง ถ้าให้เลือกก้านนักกอล์ฟท่านนี้น่าจะเหมาะกับก้านกราไฟล์มากกว่า ส่วนระยะที่ได้ค่อนข้างดีอาจเนื่องมาจาก Ping G20 มีองศาที่ค่อนข้างชัน เราวัดองศาเหล็ก7ได้ 32* การควบคุมไม้ในขณะสวิงทำได้ดี ลูกที่พุ่งออกจากหน้าไม้เร็วและมีวีถีของลูกไม่โด่งมากนักในการตีก้านเหล็ก ส่วนก้านกราไฟล์ลูกโด่งกว่า จุดตก (Carry) และวิ่งไปข้างหน้าไม่มากนักระยะเฉลี่ยไม่เกิน4หลาจากจุดตก ถ้าตีแบบดุดันเหล็ก5ทำระยะได้200หลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจเท่าไรเพราะองศาของเหล็กชุดนี้ค่อนข้างชัน
Club 3 4 5 6 7 8 9 PW AW SW LW | Length 38.75" 38.25" 37.75" 37.25" 36.75" 36.25" 35.75" 35.50" 35.50" 35.25" 35.00" | Loft 20 23 26 29 32 36 40 45 50 54 58 | Lie 59.25 60.00 60.75 61.50 62.26 63.00 63.75 64.00 64.00 64.25 64.50 | Offset 0.32 0.30 0.28 0.26 0.24 0.22 0.20 0.18 0.15 0.13 0.10 | Bounce -2.0 0.0 2.0 4.0 6.0 8.0 9.0 10.0 11.0 12.0 12.0 | Swgt. D0 D0 D0 D0 D0 D0 D0 D2 D2 D4 D6 |
ถ้าจะพูดถึงข้อดีและประสิทธิภาพของ Ping G20 คิดว่าน่าจะเพียงพอที่นักกอล์ฟเลือกชุดเหล็กจาก Ping ที่มีคุณสมบัติที่ดีและยังมีการฟิตติ๊งให้กับนักกอล์ฟแต่ละท่านได้ ส่วนข้อติชมก็อาจจะเป็นเรื่องของลักษณะใบที่ค่อนข้างใหญ่ที่ขัดกับความ รู้สึกของนักกอล์ฟบางคนที่ชอบเหล็กใบบางคมกว่าเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจระหว่างประสิทธิภาพของเหล็กกับสไตล์ของเหล็ก ที่เราชอบว่าเราควรเลือกเหล็กแบบไหน
**เรามาพูดถึงความหมายของคำว่า "Wrist Cock-Release" กันดีกว่าเมื่อเรากำลังดาวน์สวิง ตราบใดที่เรายังเก็บข้อมืออยู่โดยที่เรายังไม่คลายข้อมือ มือและหัวไม้ก็จะยังเคลื่อนที่ด้วยสปีดที่เท่ากัน เมื่อคุณคลายข้อมือแขนของคุณจะช้าลงแต่ก้านไม้จะถูกเร่งความเร็วหัวไม้ (Centrifugal force : แรงเหวี่ยงหนี้ศูนย์กลาง) ซึ่งหัวไม้ที่ถูกลากมาหลังก้านตลอดทางตอนนี้เริ่มตอบสนองกับการที่แขนช้าลง และถูกเหวี่ยงออกด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนยกลาง ทำให้หัวไม้นำหน้าก้านและจะโค้งไปทางด้านหน้าเล็กน้อยลักษณะนี้เป็นการเพิ่ม องศาหน้าไม้ในขณะอิมแพคและยังเป็นการเพิ่ม Launch Angle (มุมเหิน) ซึ่งมีอิทธิพลต่อวิถีการพุ่งของลูกและในที่สุดแล้วก็มีผลต่อระยะของลูกที่จะ เดินทางออกจากหน้าไม้
แต่ก็ไม่ใช่ทุกสวิงสปีดจะมีลักษณะนี้เหมือนกันหมด ตอนนี้เราจะยกตัวอย่างของอาการ Wrist Cock – Release (การคลายข้อมือ) ของนักกอล์ฟสามคนที่มีการคลายข้อมือในลักษณะที่ต่างกันไป
คนแรกมีการคลายข้อมือเริ่มตั้งแต่ตอนดาวน์สวิง
คนที่สองมีการคลายข้อมือตรงช่วงกลางขณะดาวน์สวิง
คนที่สามมีการคลายข้อมือตรงช่วงปลายใกล้ช่วงอิมแพค
จากนักกอล์ฟคนแรกจะทำให้ก้านโค้งไปข้างหน้าเร็วเกินไปทำให้ก้านเข้าอิมแพคใน ลักษณะที่เป็นเส้นตรงทำให้วิถีลูกที่พุ่งออกจากหน้าไม้ไม่โด่งและมีมุมเหิน ที่น้อย ถ้าเปรียบเทียบนักกอล์ฟคนที่สองจะดีกว่านักกอล์ฟคนแรก และถ้านักกอล์ฟคนที่สามจะดีที่สุดในเสียววินาทีก่อนอิมแพคที่เราจะเห็นได้ บ่อยๆในวงสวิงของโปรทัวร์ทั้งหลายที่แข่งในทัวร์นาเมนท์ต่างๆทั่วโลก
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือสมมุติว่านักกอล์ฟทั้งสามท่านมี "สวิงสปีดที่เท่ากัน" และ "คุณคิดว่านักกอล์ฟทั้งสามคนนี้ควรจะใช้ก้านแบบเดียวกันหรือเปล่า"
ก้านไม้จะเริ่มทำงานเมื่อเราเริ่มการเคลื่อนไหวของข้อมือ เราต้องหาก้านที่เหมาะกับความเร็วหัวไม้และเข้ากับจังหวะคลายข้อมือ (Wrist Cock-Release) ซึ่งเป็นข้อมูลหนึ่งที่สำคัญในการทำ Club Fitting
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น